ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เดินทางเยือนชายแดนที่เป็นแนวหน้าของการรบกับรัสเซีย ขณะที่ กรุงมอสโกอ้างว่า กองกำลังของตนสามารถยึดหมู่บ้านแห่งหนึ่งของยูเครนมาได้
อันเดรย์ โบคารอฟ ผู้ว่าการแคว้นโวลโกกราด ทางใต้ของรัสเซีย ระบุในโพสท์เทเลแกรม ในวันพฤหัสบดีว่า เกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ตั้งทางทหารหลังถูกโจมตีด้วยโดรนของยูเครน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันพฤหัสบดีด้วยว่า กองทัพยูเครนทำการโจมตีด้วยโดรน 28 ลำเข้าใส่เป้าหมาย 13 จุดในโวลโกกราด ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา โดยมีรายงานการโจมตีเข้าใส่แคว้นรอสตอฟ เบลโกรอด โวโรเนช บรีแยงสก์และเคิร์สก ด้วย
แต่กระทรวงฯ ระบุว่า กองกำลังของตนยึดหมู่บ้านเมโชเว ในเขตปกครองดอแนตสก์ของยูเครนไว้ได้ด้วย
และในระหว่างเยือนพื้นที่ชายแดนในวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีเซเลนสกีประกาศว่า ทัพยูเครนสามารถยึดหมู่บ้านอีกแห่งของรัสเซียไว้ได้เช่นกัน หลังอ้างว่า ยึดพื้นที่ตั้งถิ่นฐานกว่า 90 แห่งในแคว้นนี้ไว้ได้แล้ว
แถลงการณ์ของผู้นำยูเครนระบุว่า การยิงถล่มและจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในเขตปกครองซูมีนั้นลดลง นับตั้งแต่ยูเครนดำเนินปฏิบัติการรุกคืบเข้าไปในแคว้นเคิร์สกของรัสเซียเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ก่อนด้วย
ทั้งนี้ รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของรายงานจากสนามรบของทั้งรัสเซียและยูเครนได้
ขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านความมั่นคงของรัสเซีย FSB เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ได้เริ่มกระบวนการเอาผิดทางอาญาแก่ผู้สื่อข่าวหลายคน โดยกล่าวหาทั้งหมดว่า ข้ามแดนเข้ามาโดยผิดกฎหมายเพื่อรายงานการรุกรานของยูเครนเข้ามาในแคว้นเคิร์สก
หนึ่งในเป้าหมายการสอบสวนของหน่วย FSB คือ นิค เพตัน วอลช์ ผู้สื่อข่าวของ CNN ที่เข้ามารายงานในเมืองซุดชา (Sudzha) ของรัสเซีย พร้อมกับผู้สื่อข่าวยูเครน 2 คน
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอเอฟพีและรอยเตอร์