โฆษกกองทัพยูเครนเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ระเบิดลูกปรายจากสหรัฐฯ ถึงมือกองทัพยูเครนแล้ว ไม่นานหลังจากสหรัฐฯ ประกาศแผนจัดส่งระเบิดชนิดดังกล่าวให้กับกองทัพยูเครนเมื่อสัปดาห์ก่อน ตามรายงานของรอยเตอร์
วาเลรี เชอร์เชน โฆษกกองบัญชาการทาฟเรียทางตอนใต้ของยูเครน ยืนยันเรื่องนี้ในรายงานของซีเอ็นเอ็นว่า ผู้บัญชาการของกองทัพยูเครนในทาฟเรียระบุว่าได้รับระเบิดลูกปราย หรือ ระเบิดพวง แต่ยังไม่ได้เริ่มใช้อาวุธชนิดดังกล่าวในขณะนี้
เชอร์เชน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ในยูเครนว่า ระเบิดลูกปราย “อยู่ในมือของกองทัพเราแล้ว” แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติม
Your browser doesn’t support HTML5
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ประกาศเมื่อ 7 กรกฎาคมว่า จะจัดส่งระเบิดลูกปรายให้กับรัฐบาลกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนความช่วยเหลือด้านความมั่นคง 800 ล้านดอลลาร์ ที่มีเป้าหมายในการสร้างความมั่นใจว่ากองทัพรัสเซียที่รุกรานยูเครนมาเกือบ 17 เดือนนี้จะไม่สามารถหยุดยั้งการรุกโต้กลับของยูเครนได้
อย่างไรก็ตาม ระเบิดลูกปรายถือเป็นอาวุธต้องห้ามในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากระเบิดชนิดนี้จะปล่อยระเบิดขนาดเล็กจำนวนมหาศาลที่สามารถคร่าชีวิตผู้คนในวงกว้างได้อย่างไม่เลือกหน้า และระเบิดบางส่วนที่ยังไม่จุดชนวนก็อาจเป็นภัยอันตรายยาวนานหลายทศวรรษได้
SEE ALSO: รัฐบาลไบเดนเตรียมส่ง 'ระเบิดลูกปราย' ให้ยูเครน
ยูเครนระบุว่าจะใช้ระเบิดลูกปรายเพียงเพื่อการ “ยึดคืน” ดินแดนของยูเครนกลับมา และว่าจะไม่ใช่ระเบิดชนิดนี้ในพื้นที่ในเมือง และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ย้ำถึงเรื่องนี้อีกครั้งในเวทีประชุมสุดยอดนาโต้เมื่อวันพุธด้วยเช่นกัน
การตัดสินใจส่งระเบิดลูกปรายให้แก่ยูเครนได้รับเสียงคัดค้านจากสเปนและแคนาดา ขณะที่นักการเมืองพรรคเดโมแครตบางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้านสถานทูตรัสเซียในสหรัฐฯ ออกมาประณามการตัดสินใจส่งมอบระเบิดให้ยูเครนของสหรัฐฯ
SEE ALSO: ไบเดนหารือซูเเน็กชื่นมื่น แม้สองประเทศเห็นต่างเรื่อง 'ระเบิดลูกปราย'
ที่ผ่านมา รัสเซีย ยูเครน และสหรัฐฯ ยังไม่ได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยระเบิดลูกปราย (Convention on Cluster Munitions) ที่ห้ามประเทศต่าง ๆ ที่ลงนามรับรองในการใช้งาน พัฒนา ผลิต จัดหา สั่งสม เก็บรักษาหรือถ่ายโอนระเบิดชนิดนี้ ขณะที่มี 123 ประเทศและรัฐลงนามในอนุสัญญาดังกล่าว
- ที่มา: รอยเตอร์