“เดโมแครต” มั่นใจข้อมูลขอถอดถอนทรัมป์แน่น “เอาผิดได้ภายใน 3 นาที”

House Judiciary Committee Chairman Rep. Jerrold Nadler, D-N.Y., talks during a hearing before the House Judiciary Committee on the constitutional grounds for the impeachment of President Donald Trump, on Capitol Hill in Washington, Dec. 4.

Your browser doesn’t support HTML5

Trump Impeachment


ประธานคณะกรรมาธิการตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า ญัตติขอถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง น่าจะสามารถชี้ให้เห็นถึงการกระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีข้อมูลที่หนักแน่น

ส.ส. เจอร์โรลด์ แนดเลอร์ ประธานคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับช่องซีเอ็นเอ็นวันอาทิตย์ว่า หากประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกพิจารณาโดยคณะลูกขุนในศาลอาญา เขาน่าจะถูกตัดสินว่ากระทำผิด “ภายในสามนาที”

ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่เดโมแครตคุมเสียงข้างมาก กำลังดำเนินการตรวจสอบว่าผู้นำสหรัฐฯ กระทำผิดหรือไม่ ในกรณีที่เขาขอให้ยูเครนตรวจสอบคู่แข่งทางการเมืองของตน

ส.ส. แนดเลอร์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการของเขาอาจลงมติภายในสิ้นสัปดาห์นี้ ว่าจะผ่านญัตติขอถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์หรือไม่ หลังการรับฟังข้อมูลเพิ่มในวันจันทร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดยคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนฯ จากการไต่สวนผู้เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้

หากพิจารณาถึงกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อาจสามารถลงมติเรื่องการขอถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ แบบเต็มองค์คณะ ก่อนวันหยุดช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะมาถึง

และถ้าเป็นไปตามนั้น วุฒิสภาก็จะลงมติว่าจะถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่ ในเดือนมกราคมปีหน้าได้

อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะถูกถอดถอนมีไม่มาก เพราะพรรครีพับลิกันที่เขาสังกัดอยู่คุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา

ขณะนี้ภายในพรรคเดโมแครตเองมีความเห็นที่แตกต่าง ว่าจะเสนอให้เอาผิดประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้งหมดกี่ข้อหา

ส.ส. ส่วนหนึ่งของเดโมแครตต้องการที่จะเดินหน้าด้วยข้อกล่าวหาหลายกระทง ตั้งแต่การใช้อำนาจในทางที่ผิด ขัดขวางการทำงานของสภา และขัดขวางการทำหน้าที่ของอัยการพิเศษโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ตรวจสอบเรื่องการแทรกแซงการเมืองอเมริกันโดยรัสเซียในการเลือกตั้งประธานธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ 3 ปีก่อน

แต่ ส.ส. บางส่วนที่ชนะการเลือกตั้งในเขตที่ทรัมป์ได้คะแนนเสียงข้างมากในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่แล้ว ต้องการให้เนื้อหาของญัตติขอถอดถอน มุ่งความสำคัญไปที่เรื่องยูเครนโดยเฉพาะ

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน กระบวนการไต่สวนขอถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเป็นทางการ มุ่งเป้าส่วนใหญ่ไปที่เรื่องที่ทรัมป์ขอให้ประธานาธิบดียูเครนตรวจสอบคู่แข่งทางการเมือง คืออดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเด้น และลูกชายฮันเตอร์ ไบเด้น ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทพลังงานในยูเครน

แม้ช่วงเวลานั้นจะตรงกับที่ประธานาธิบดีทรัมป์ระงับความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนมูลค่า 391 ล้านดอลลาร์ แต่ผู้นำสหรัฐฯ ยอมให้มีการสนับสนุนดังกล่าวในเดือนกันยายนโดยที่ยูเครนไม่ได้ประกาศการสอบสวนโจ และฮันเตอร์ ไบเด้น

ในวันอาทิตย์ ส.ส. อดัม ชิฟฟ์ ประธานาคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนฯ ให้สัมภาษณ์รายการ Face The Nation ของช่องซีบีเอสว่า ควรมุ่งเป้าข้อกล่าวหาไปที่กรณีซึ่งเกี่ยวกับยูเครนเท่านั้น

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์โจมตีกระบวนการไต่สวนขอถอดถอนตนโดยคณะทำงานในสภาผู้แทนฯ ว่าไม่ชอบธรรม และตั้งข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความผิด

ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันนั้น มีประธานาธิบดีถูกตั้งข้อหาเพื่อถอดถอนในสภาล่างมาแล้วสองครั้ง คืออดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ซึ่งทั้งคู่ถูกสภาล่างที่ทำหน้าที่คล้ายอัยการตั้งข้อหาเพื่อถอดถอน แต่วุฒิสภาซึ่งทำหน้าที่คล้ายศาล ลงมติไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหา

ส่วนผู้นำสหรัฐฯ อีกคนหนึ่งซึ่งถูกกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนเช่นกัน คืออดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน แต่ได้ชิงลาออกจากตำแหน่งก่อนที่กระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์