ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ส่งทวีตเตือนรัสเซียว่าอย่าเข้าข้างซีเรียและระบุว่า "จะมีจรวดยิงไปซีเรีย" อีกด้วย
ทวีตของผู้นำสหรัฐฯมีขึ้นหลังจากรัสเซียใช้สิทธิยับยั้งร่างมติของสหรัฐฯต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติให้มีคณะกรรมการตรวจสอบและหาผู้กระทำผิดจากรายงานการใช้แก๊สพิษทำร้ายประชาชนเมื่อวันเสาร์ ที่เมืองกูตา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน
สหรัฐฯและพันธมิตรเชื่อว่ารัฐบาลซีเรียอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยเเก๊สพิษครั้งนี้
นอกจากนี้การเตือนครั้งล่าสุดโดยผู้นำสหรัฐฯ ยังเป็นปฏิกิริยาตอบโต้การประกาศของทูตรัสเซียในประเทศเลบานอนที่กล่าวว่ากองทัพรัสเซียจะยิงสกัดจรวดขีปนาวุธใดๆที่พุ่งมาสู่ซีเรีย
ประธานาธิบดีทรัมป์เขียนลงทวิตเตอร์เปรียบเทียบซีเรียว่าเป็น "สัตว์" ที่มีความสุขจากการฆ่าผู้อื่นด้วยเเก๊สพิษ และรัสเซียไม่ควรเป็นพันธมิตรกับผู้ที่กระทำการเช่นนี้
รัสเซียกล่าวว่าขีปนาวุธจากสหรัฐฯ ควรเล็งไปที่กลุ่มก่อการร้ายไม่ใช่ "รัฐบาลที่มีความชอบธรรม" ในซีเรีย
โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดิมิทรีย์ เพ็สคอฟ บอกด้วยว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะไปสั่นคลอนความมั่นคงในภูมิภาค
ขณะเดียวกันซีเรียกล่าวผ่านสื่อของรัฐว่า การขู่ของสหรัฐฯเป็นการเพิ่มความตึงเครียดที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ
ทางการซีเรียปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลของตนอยู่เบื้องหลังการทำร้ายประชาชนด้วยเเก๊สพิษ
เมื่อวานนี้ทำเนียบขาวประกาศว่าประธานาธิบดีทรัมป์ยกเลิกแผนเดินทางไปลาตินอเมริกา เพื่อที่จะเตรียมตัวสำหรับการตอบโต้ซีเรีย และรัฐมนตรีกลาโหม จิม เมททิส ยกเลิกแผนเดินทางในประเทศเช่นกัน
ส่วนประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็องของฝรั่งเศสกล่าวว่า จะมีการตัดสินใจในเรื่องซีเรียอีกไม่กี่วันจากนี้ และว่าการโจมตีใดๆ ทางอากาศต่อซีเรียจะมุ่งเป้าไปที่สถานที่เก็บสารเคมีของรัฐบาลซีเรีย
รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย จูลี่ บิช็อพ แถลงว่าหากว่าจะมีการโจมตีซีเรีย ก็จะเป็นไปอย่าง "มุ่งเป้าเฉพาะจุด ระมัดระวัง และสมเหตุสมผล"
องค์การอนามัยโลกอ้างข้อมูลจากหน่วยงานบรรเทาทุกข์ที่กล่าวว่า นอกจากจะมีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คนจากการโจมตีด้วยแก๊สพิษเมื่อวันเสาร์ที่เมืองกูตาแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บที่ขอความช่วยเหลือทางการแพทย์อีกราว 500 คน