สหรัฐฯประณามการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเขตที่อยู่ใต้การควบคุมของกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลในซีเรีย ซึ่งคาดว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ประธานาธิบดีบาชา อัล-อัสซาด ของซีเรีย ถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้
โฆษกทำเนียบขาว ฌอน สไปเซอร์ กล่าววันอังคารว่า "การโจมตีในวันนี้ซึ่งมีเหยื่อเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งเด็กและสตรี เป็นเรื่องน่าชิงชังและไม่สามารถเพิกเฉยได้"
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าสหรัฐฯ มีข้อจำกัดในการตอบโต้กับเหตุการณ์นี้ และบอกว่า "แม้อำนาจประธานาธิบดีบาชา อัล-อาซาด อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดต่อผลประโยชน์ของชาวซีเรีย แต่เขาเป็นส่วนหนึ่งของความจริงของภาวะการเมืองในประเทศ"
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณเมือง Idlib และน่าจะเป็นการโจมตีด้วยสารเคมีครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่การโจมตีด้วยแก๊สพิษที่เขตชานเมืองของกรุงดามัสกัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,500 คน ในปี ค.ศ. 2013
ในครั้งนั้น ทางการอเมริกันภายใต้อดีตประธานาธิบดีโอบามา ถือว่าเป็นการ "ข้ามเส้น" ที่จะยอมรับได้ และประธานาธิบดีโอบามาขู่ว่าจะตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศ
อย่างไรก็ตาม การตอบโต้ทางทหารของสหรัฐฯ ตามที่กล่าวไว้ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะสหรัฐฯ เลือกที่จะกดดันให้มีการเจรจาที่นำไปสู่การคืนอาวุธเคมีในซีเรีย
หลังจากนั้นมีการใช้อาวุธเคมีโจมตีอีกหลายครั้งในซีเรีย แต่สารพิษที่ใช้มีความรุนแรงน้อยลงกว่าเมื่อ 4 ปีก่อน จนกระทั่งเหตุสลดครั้งนี้