ประธานาธิบดีทรัมป์กับอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะขึ้นเวทีโต้อภิปรายครั้งแรกคืนวันอังคารที่ 29 กันยายนนี้ที่นครคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอเป็นเวลา 90 นาที และในวันอาทิตย์ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าตนขอเรียกร้องให้โจ ไบเดนรับการตรวจเรื่องการใช้ยาในช่วงก่อนหรือหลังการอภิปรายโต้วาที ซึ่งก็ดูจะเป็นการกล่าวเป็นนัยว่าผลงานการอภิปรายโต้วาทีของโจ ไบเดนกับผู้สมัครคนอื่นของพรรคเดโมแครตในช่วงก่อนหน้านี้ที่ไม่คงเส้นคงวานั้นเป็นผลมาจากการใช้ยาบางอย่าง
โดยคำกล่าวหาซึ่งค่อนข้างจะผิดธรรมดาที่ว่านี้มีขึ้นขณะที่คะแนนนิยมในระดับชาติของผู้นำสหรัฐยังตามหลังผู้ท้าชิงคืออดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งหากประธานาธิบดีทรัมป์แพ้การเลือกตั้งครั้งนี้เขาก็จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่สามในรอบ 40 ปีหลังนี้ที่อยู่ในตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียว
เท่าที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์วัย 74 ปีมักตั้งคำถามเกี่ยวกับความเฉียบคมเรื่องการใช้ความคิดของผู้ท้าชิงคืออดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนผู้มีอายุ 77 ปีบ่อยครั้ง แต่โจ ไบเดนก็มักบอกปัดคำกล่าวโจมตีจากประธานาธิบดีทรัมป์และว่าตนจะสามารถทำได้เท่าเท่ากับหรือทำได้ดีกว่าในการอภิปรายโต้วาทีด้วย
Your browser doesn’t support HTML5
และขณะที่เหลืออีกราวห้าสัปดาห์จะถึงวันเลือกตั้ง ผลการสำรวจความนิยมระดับชาติแสดงว่าโจ ไบเดนมีคะแนนนำประธานาธิบดีทรัมป์โดยเฉลี่ยราว 7 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้จากการรวบรวมผลการสำรวจต่างๆ ของ Real Clear Politics.com อย่างไรก็ตามคะแนนนิยมของโจ ไบเดนในรัฐสำคัญซึ่งจะต้องมีการขับเคี่ยวช่วงชิงชัยชนะนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 7 เปอร์เซ็นต์
อีกด้านหนึ่ง การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงโจมตีเรื่องความถูกต้องชอบธรรมของการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์และไม่ยอมรับปากว่าจะมีการส่งมอบอำนาจโดยราบรื่นและอย่างสันตินั้นทำให้เกิดความกังวลว่าจะไม่สามารถรู้ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีได้โดยเร็ว และการโต้แย้งคัดค้านรวมทั้งกระบวนการทางกฎหมายต่างๆ ที่อาจจะตามมาจะทำให้เกิดวิกฤติด้านรัฐธรรมนูญในสหรัฐได้
ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าปีนี้จะมีคนอเมริกันใช้วิธีส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์เกือบ 80 ล้านคนและผลการสำรวจแสดงว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตมีโอกาสจะใช้วิธีดังกล่าวมากกว่าชาวพรรครีพับลิกันถึงเกือบเท่าตัว อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีทรัมป์มักกล่าวโจมตีโดยไม่มีหลักฐานสนับสนุนยืนยันว่าการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์เปิดโอกาสให้มีการโกงเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตำหนิบางมลรัฐซึ่งส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ให้กับผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งทุกรายถึงแม้คนดังกล่าวจะไม่ได้ร้องขอก็ตาม
เมื่อปีค.ศ. 2000 หรือ 20 ปีที่แล้วกรณีโต้แย้งเกี่ยวกับการนับบัตรเลือกตั้งในรัฐฟลอริดาเป็นคดีความที่ศาลสูงสุดหรือศาลฎีกาสหรัฐต้องเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด และเป็นผลให้คะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้งจากรัฐฟลอริดาตกเป็นของจอร์จ ดับเบิลยู บุชของพรรครีพับลิกันซึ่งก็ช่วยให้เขาได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐโดยได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งหรือ electoral voters มากกว่าอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์เพียงหนึ่งคะแนนถึงแม้ว่าอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์จะได้คะแนน popular vote หรือเสียงที่ประชาชนทั่วประเทศลงคะแนนให้มากกว่าก็ตาม