ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่า นายโจ ไบเดน จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป หนึ่งวันหลังเกิดเหตุการณ์ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์บุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อยับยั้งกระบวนการรับรองชัยชนะของนายไบเดน จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในวิดีโอที่เผยแพร่ในช่วงหัวค่ำวันพฤหัสบดีว่า จากนี้ตนจะมุ่งความสนใจไปที่การถ่ายโอนอำนาจการบริหารอย่างราบรื่นให้แก่รัฐบาลของนายไบเดน นอกจากนี้ยังกล่าวประณามความรุนแรงที่รัฐสภาสหรัฐฯ ในวันพุธ โดยบอกว่าผู้ก่อจลาจลได้ปฏิเสธสัญลักษณ์สำคัญของประชาธิปไตยของคนอเมริกัน
Your browser doesn’t support HTML5
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า "การได้ทำงานในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถือเป็นเกียรติยศที่สูงส่งในชีวิต" และว่า ตนเข้าใจดีถึงความผิดหวังของผู้สนับสนุนตนทุกคน แต่ก็ต้องการให้รู้ว่าการเดินทางที่พิเศษเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คำแถลงล่าสุดของผู้นำสหรัฐฯ ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง แตกต่างจากท่าทีในการปราศรัยต่อผู้สนับสนุนหลายพันคนที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่าตนถูกปล้นชัยชนะ และกระตุ้นให้บรรดาผู้สนับสนุนเดินขบวนไปยังรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะของนายไบเดน ก่อนที่จะเกิดเหตุจลาจลซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตและบาดเจ็บ
SEE ALSO: ทรัมป์เจอแรงกดดัน 'ถอดถอน' จากนักการเมืองอเมริกันและคนในรัฐบาลเอง
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.แนนซี เพโลซี จากพรรคเดโมเเครต และวุฒิสมาชิก ชัค ชูเมอร์ ผู้นำฝ่ายเดโมเเครตในวุฒิสภา ออกเเถลงการณ์เรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ประกาศใช้บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญข้อที่ 25 (25th Amendment) เพื่อถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีโดยทันที โดยให้เหตุผลว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ปลุกปั่นทำให้มวลชนที่สนับสนุนเขาลูกฮือขึ้นบุกและยึดอาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้
ส.ส. เพโลซี กล่าวว่าประธานาธิบดีทรัมป์ “ยุยงปลุกปั่นให้บุคคลติดอาวุธ” ก่อเหตุร้ายแรง ส่วนชัค ชูเมอร์ ซึ่งคาดว่าจะได้เป็นผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา กล่าวว่า รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ สามารถระดมเสียงสนับสนุนจากสมาชิกคณะรัฐมนตรีในการใช้กฎรัฐธรรมนูญดังกล่าวถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนการขึ้นดำรงตำแหน่งของโจ ไบเดน เป็นผู้นำคนต่อไป ในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์จากนี้ คือในวันที่ 20 มกราคม
SEE ALSO: 'แทมมี ดักเวิร์ธ' ประณามการบุกรัฐสภาเพื่อล้มล้างผลการเลือกตั้ง
ถ้อยความตอนหนึ่งของแถลงการณ์ของทั้ง เเนนซี เพโลซี และชัค ชูเมอร์ สอดคล้องกันในส่วนที่ระบุว่า ถ้ารองประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะลุกขึ้นแสดงจุดยืน รัฐสภาก็จะจัดประชุมเพื่อดำเนินการถอดถอนทรัมป์เอง