กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลายร้อยคนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันพุธ โดยมีเป้าหมายขัดขวางการรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่นายโจ ไบเดน เป็นฝ่ายชนะ
ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาในการสลายกลุ่มผู้ประท้วง ภาพข่าวที่เผยแพร่ไปทั่วโลกแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ชักปืนขึ้นมาเล็งไปที่ประตูด้านหน้าห้องประชุมในรัฐสภาขณะที่ผู้ประท้วงพยายามจะบุกเข้าไป และนักการเมืองอเมริกันหลายคนหมอบราบลงกับพื้นในขณะที่ตำรวจพยายามอารักขาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ไปยังสถานที่ปลอดภัย
สื่อวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายในเหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นสตรีซึ่งเสียชีวิตจากการถูกยิง แต่มิได้ให้รายละเอียดอื่น ๆ
ด้านนอกอาคารรัฐสภา ผู้ประท้วงหลายพันคนชุมนุมทั่วสนามหญ้าหน้าอาคารรัฐสภา และมีบางส่วนที่พยายามรื้อถอนรั้วกั้นและปะทะกับตำรวจ
หัวหน้าตำรวจกรุงวอชิงตัน โรเบิร์ต คอนตี ระบุว่าผู้ประท้วงใช้สารเคมีโจมตีใส่ตำรวจ มีตำรวจหลายรายได้รับบาดเจ็บ และมีประชาชนถูกยิงหนึ่งคน
ด้านว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ออกมาแถลงถึงเหตุการณ์บุกรุกรัฐสภาสหรัฐฯ ในครั้งนี้ว่า "เข้าข่ายปลุกปั่นให้เกิดการต่อต้านการปกครอง" และว่า "นี่ไม่ใช่การประท้วง แต่เป็นการก่อจลาจล"
นายไบเดนยังได้ขอให้ประธานาธิบดีทรัมป์ "ยุุติการปิดล้อม" รัฐสภาสหรัฐฯ
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวในคลิปวีดีโอที่เผยแพร่ออกมาเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงหลังจากที่ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา โดยบอกให้ผู้สนับสนุนตน “กลับบ้าน”
ทรัมป์เริ่มต้นวีดีโอด้วยการกล่าวว่า “ผมเข้าใจบาดแผลและความเจ็บปวดของพวกคุณดี” ก่อนจะบอกว่า “แต่พวกคุณต้องกลับบ้านทันที เราต้องรักษาสันติ เราต้องรักษากฎและระเบียบในสังคม”