สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในช่วงเช้าวันศุกร์ จรวดต่อต้านรถถังที่ถูกยิงมาจากเลบานอนสังหารชายคนหนึ่งจากประเทศไทยที่ทำงานในภาคเกษตรกรรมทางตอนเหนือของอิสราเอล
กลุ่มเฮซบอลลาห์ขยายการโจมตีด้วยจรวดเข้าไปในอิสราเอลวันศุกร์ตลอดทั้งวัน ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับการใช้ชีวิตของชาวอิสราเอล
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่อิสราเอลโจมตีเลบานอนเเละทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายในกรุงเบรุต
เมเกน เดวิด อะดอม ที่ทำงานให้กับหน่วยช่วยเหลือทางการเเพทย์ฉุกเฉิน กล่าวว่าผู้เสียชีวิตจากประเทศไทยรายนี้อายุ 27 ปี และถูกปลิดชีพโดยจรวดที่ยิงมาตกพื้นที่เกษตรกรรม
สื่ออิสราเอลรายงานว่าชายคนดังกล่าวทำงานในพื้นที่ชุมชนเกษตร หรือคิบบุตซ์ ทั้งนี้อิสราเอลใช้เเรงงานต่างชาติจำนวนมากโดยเฉพาะจากประเทศไทยในภาคเกษตรกรรม
ฐานข้อมูลกระทรวงแรงงานเมื่อเดือนสิงหาคม ระบุว่ามีแรงงานไทยในอิสราเอลจำนวนราว 13,000 คน ซึ่งถือว่ายังน้อยกว่าตัวเลขราว 25,000 คน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2023 ก่อนสงครามอิสราเอล-ฮามาสจะเริ่มต้นขึ้น วันที่ 7 ต.ค. ปีที่เเล้ว ก่อนขยายวงกว้างสู่เลบานอน
SEE ALSO: 1 ปีสงครามกาซ่า: ภารกิจตัวประกันยังเดินต่อไป-แรงงานไทยกลับไปเสี่ยงชีวิตในวันศุกร์เช่นกันการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทำให้ทหารเลบานอนเสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บอีก 3 ราย
ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ทหารอิสราเอลยิงเข้าใส่ที่ทำการของหน่วยงานรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทางใต้ของเลบานอน ทำให้เจ้าที่รักษาสันติภาพบาดเจ็บ 2 ราย โดยก่อนหน้านี้ก็เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันมาเเล้ว
เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้กองทัพบกของเลบานอนเข้าไปอยู่ในความขัดเเย้ง โดยก่อนหน้านี้กองทัพพยายามรักษาระยะห่าง เพราะถือว่าคู่ขัดเเย้งโดยตรงคืออิสราเอลและเฮซบอลลาห์ที่มีอิหร่านหนุนหลังอยู่
และการที่มีเจ้าหน้าที่ยูเอ็นได้รับบาดเจ็บอีกครั้งก็ได้สร้างความกังวลเพิ่มขึ้น ขณะที่อิสราเอลขยายปฏิบัติการต่อสู้กับเฮซบอลลาห์ ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศขนานใหญ่และการบุกภาคพื้นดิน
ในตอนกลางของกรุงเบรุตช่วงวันศุกร์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามหาผู้รอดชีวิตจากซากตึกถล่ม ที่เป็นผลมาจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลคืนวันพฤหัสบดี ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 22 คน และบาดเจ็บหลายสิบคน
ตั้งเเต่ที่เฮซบอลลาห์เริ่มยิงจรวดใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ปีที่เเล้ว เพื่อเป็นการเเสดงจุดยืนร่วมกับกลุ่มฮามาสและชาวปาเลสไตน์ในกาซ่า อิสราเอลโจมตีตอบโต้เฮซบอลลาห์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวเลบานอนเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 2,229 ราย
อาคารของหน่วยงานรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ หรือ UNIFIL บริเวณชายแดนอิสราเอลและเลบานอน
ในจำนวนผู้เสียชีวิต มีนักรบเฮซบอลลาห์ ประชาชนและบุคลากรทางเเพทย์ อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเลบานอน
กระทรวงฯ กล่าววันศุกร์ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิต 60 รายและบาดเจ็บ 168 คน จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
ส่วนการโจมตีโดยเฮซบอลลาห์ ทำให้มีผลเรือนเสียชีวิต 29 คนและทหารอิสราเอลถูกสังหาร 39 ราย ช่วงปฏิบัติการเดือนตุลาคมปีที่เเล้ว และช่วงตั้งเเต่เดือนกันยายนที่เพิ่งผ่านมา เมื่ออิสราเอลเริ่มรุกเลบานอนภาคพื้นดิน
ทั้งนี้ หน่วยงานรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน หรือ UNIFIL กล่าวว่าเกิดการระเบิดในวันศุกร์ใกล้หอสังเกตการณ์ที่เมืองนาโควรา เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพรายหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่เมืองไทร์ที่อยู่ติดกัน ขณะที่อีกรายหนึ่งได้รับการปฐมพยาบาล ณ ที่เกิดเหตุ
กระทรวงการต่างประเทศศรีลังกากล่าวว่าผู้บาดเจ็บสองรายนี้เป็นประชาชนของประเทศตนและได้ออกเเถลงการณ์ประณามการโจมตี
นอกจากนี้ฝรั่งเศสซึ่งมีส่วนในการส่งเจ้าหน้าที่ทำงานด้านการรักษาสันติภาพกล่าวว่ามีบุคคลจากประเทศของตนได้รับบาดเจ็บหนักหนึ่งราย
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าทหารฝ่ายตนที่ปฏิบัติหน้าที่ทางใต้ของเลบานอน พบว่าบริเวณใกล้ ๆ UNIFIL มีสัญญาณเป็นอันตรายจึงได้ยิงใส่
กองทัพบกอิสราเอลระบุว่าการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป้าหมายที่ต้องการโจมตีอยู่ห่างจากที่ตั้งของ UNIFIL ประมาณ 50 เมตร
ทางการฝรั่งเศสประณามการโจมตีในวันศุกร์และเรียกตัวทูตอิสราเอลเข้าพบเพื่อเป็นการประท้วง นอกจากนั้นยังกล่าวหาว่าอิสราเอลจงใจยิงเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ
ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เเถลงว่า รัฐมนตรีลอยด์ ออสติน ย้ำกับรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลถึงความจำเป็นที่ต้องให้ความปลอดภัยต่อ UNIFIL
ออสตินยังได้เรียกร้องให้อิสราเอลปรับจากแนวทางการทหารมาสู่วิธีทางการทูตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
อิสราเอลได้ออกคำเตือนให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพออกจากพื้นที่ที่ถูกระบุว่าอยู่ใกล้กับจุดที่นักรบเฮซบอลลาห์ใช้เป็นฐานยิงขีปนาวุธเข้ามาทางตอนเหนือของอิสราเอลในช่วงหนึ่งปีที่มีการต่อสู้กันข้ามพรมเเดน
เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของยูเอ็นจำนวน 300 คนได้อพยพออกจากที่ทำการ บริเวณพรมเเดนเลบานอน-อิสราเอล ไปยังฐานที่มั่นที่ใหญ่กว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่เกิดการโจมตีเช่นกัน
- ที่มา: เอพี