นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า อิสราเอลกำลังวางแผนที่จะเดินหน้าถล่มกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอนต่อไป “อย่างสุดกำลัง” จนกว่าจะได้ตัวประชาชนทางภาคเหนือของอิสราเอลกลับสู่บ้านของพวกเขาอย่างปลอดภัย
เนทันยาฮูยังบอกกับผู้สื่อข่าว หลังเดินทางถึงสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติในวันศุกร์ ว่า “เราจะไม่หยุด จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมดของเรา สิ่งที่มีความสำคัญเหนืออื่นใดก็คือ การนำตัวประชาชนที่อาศัยในภาคเหนือกลับคืนสู่บ้านเรือนอย่างปลอดภัยให้ได้”
ก่อนที่นายกฯ อิสราเอลจะออกมาประกาศแผนการดังกล่าว อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลเพิ่งบอกปัดข้อเสนอหยุดยิงกับเลบานอน หลังสหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐฯ ฝรั่งเศสและประเทศอื่น ๆ อีก 8 ประเทศเรียกร้องให้คู่กรณีทั้งสองทำการหยุดยิงเป็นเวลา 21 วัน
หลังแคตซ์โพสต์ข้อความนี้ออกมาไม่นาน กองทัพอิสราเอลรายงานว่า ได้ทำการโจมตีเข้าใส่กรุงเบรุต และได้สังหารผู้บัญชาการผู้ดูแลระบบโดรนของเฮซบอลลาห์ที่อยู่ในอาคารอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง โดยกระทรวงสาธารณสุขเลบานอนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บอีก 15 ราย
สำหรับข้อเสนอหยุดยิงสำหรับการสู้รบที่แนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอนจากนานาชาตินี้ มีการนำเสนอออกมาเมื่อช่วงค่ำของวันพุธ ในแถลงการณ์ร่วมที่ระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลลาห์นั้นเป็นสถานการณ์ที่ “มากเกินกว่าจะรับได้และทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่อาจยอมรับได้เกี่ยวกับการยกระดับเป็น(ความขัดแย้ง)วงกว้างในภูมิภาค”
แถลงการณ์นี้กล่าวด้วยว่า การหยุดยิงจะเปิดทางให้มีการเจรจาให้เกิดข้อยุติที่เป็นไปตามแนวทางของมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เรียกร้องให้มีการพักรบระหว่างทั้งสองฝ่าย และมีการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซ่า
ออสเตรเลีย แคนาดา เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์ ร่วมกันเรียกร้องให้มีการหยุดยิงนี้ พร้อมกล่าวว่า ความขัดแย้งเป็นวงกว้างในภูมิภาค “ไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับฝ่ายใดเลย ไม่ใช่ทั้งสำหรับประชาชนของอิสราเอลหรือประชาชนของเลบานอน”
เมื่อวันพุธ ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส แจ้งกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงว่า ตนจะเดินทางไปยังกรุงเบรุตในปลายสัปดาห์นี้เพื่อทำงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับทางออกทางการทูตสำหรับความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่นี้
ท่ามกลางความพยายามยุติการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลและเฮซบอลลาห์ของนานาชาติ กองทัพกรุงเทลอาวีฟกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ได้ทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายกลุ่มติดอาวุธนี้ในภูมิภาคตะวันออกและภาคใต้ของเลบานอนไปแล้ว และจะเดินหน้าโจมตีต่อไป ขณะที่ สามารถตรวจจับอาวุธที่ถูกยิงข้ามแดนมาจากเลบานอนได้ 75 ลูก/ลำด้วย
ทั้งนี้ สื่อรัฐบาลเลบานอนรายงานว่า การโจมตีของอิสราเอลเข้าใส่ใกล้ ๆ เมืองบาอัลเบค สร้างความเสียหายให้กับอาคารที่พักอาศัยของคนงานชาวซีเรีย และทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 คน รวมทั้งมีผู้บาดเจ็บ 8 คนด้วย
ในส่วนของการยิงถล่มโดยอิสราเอลที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันจันทร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเลบานอนรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 50 คนในวันพุธซึ่งทำให้ตัวเลขสะสมผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 615 คน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมกันกว่า 2,000 คนแล้ว
เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อันโตนิโอ กูเทอเรซ บอกกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงเมื่อวันพุธว่า “สำหรับทุกฝ่าย เราของพูดให้ชัดเจนว่า หยุดการฆ่าแกงและทำลายล้างได้แล้ว ลดราการใช้วาทะและการข่มขู่ ก้าวถอยออกจากปากเหวเสีย” และว่า “ต้องมีการหลีกเลี่ยงการทำสงครามแบบหมดหน้าตักให้ได้ (มิฉะนั้น) มันจะกลายเป็นมหันตภัยที่ไม่เหลืออะไรไว้เลยอย่างแน่นอน”
อิสราเอลเตรียมรุกภาคพื้นดินเลบานอน
และหลังผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลบอกกับเหล่าทัพให้เตรียมพร้อมทำการโจมตีภาคพื้นดินเข้าใส่เลบานอนเมื่อวันพุธ รักษาการนายกรัฐมนตรีเลบานอน นาจิบ มิคาติ ที่เดินทางมาร่วมการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นที่นครนิวยอร์ก กล่าวว่า “อิสราเอลกำลังละเมิดอธิปไตยของเรา ด้วยการส่งเครื่องบินรบและโดรนเข้ามายังน่านฟ้าของเรา ด้วยการสังหารพลเรือนของเรา ซึ่งรวมถึงเยาวชน ผู้หญิงและเด็ก และทำลายบ้านเรือน พร้อมกับบีบให้ครอบครัวทั้งหลายต้องหนีภัยจากสภาพอันโหดร้าย”
มิคาติกล่าวด้วยว่า “ยิ่งไปกว่านั้น (อิสราเอล) ยังทำให้เกิดความหวาดกลัวในกลุ่มพลเรือนเลบานอนต่อหน้าต่อตาคนทั้งโลกที่เฝ้ามองโดยไม่ทำอะไรเลย”
รักษาการนายกรรัฐมนตรีเลบานอนยังปฏิเสธคำยืนยันของอิสราเอลว่า กองทัพเทลอาวีฟเพียงมุ่งจัดการกับกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์ พร้อมยืนยันว่า เวลานี้ โรงพยาบาลของเลบานอนเต็มไปด้วยศพของเหยื่อการโจมตีแล้ว และขอร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงลงมือทำการบางอย่างเพื่อยุติเรื่องนี้ด้วย
ส่วน แดนนี ดานอน ทูตอิสราเอล กล่าวว่า รัฐบาลเทลอาวีฟไม่ได้ต้องการทำสงครามเต็มรูปแบบ และเปิดรับการหาทางออกด้านการทูต พร้อมกล่าวว่า อิสราเอลเพียงทำในสิ่งที่ประเทศไหน ๆ ก็ทำ ถ้าหากประชาชนของตนตกอยู่ในอันตราย
ขณะเดียวกัน ที่กรุงวอชิงตัน เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ยืนยันว่า ยังมีเวลาพอที่จะใช้ช่องทางทางการทูตเพื่อลดระดับความขัดแย้งนี้
ซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกเพนตากอน กล่าวว่า “เราต้องการเห็นทางออกทางการทูต และเราต้องการเห็นโดยเร็วที่สุด” พร้อมชี้ว่า กองทัพสหรัฐ ไม่ได้ให้การสนับสนุนด้านงานข่าวกรองหรือทางทหารใด ๆ ให้กับอิสราเอลสำหรับการโจมตีเลบานอน
เฮซบอลลาห์ทำให้ความสงบตามแนวชายแดนเลบานอนสิ้นสุดลง ด้วยการโจมตีเข้าใส่อิสราเอล หลังสงครามในกาซ่าปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยอ้างว่า เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนเคียงข้างชาวปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาสซึ่งอิหร่านสนับสนุนเช่นกัน ขณะที่ อิสราเอลกล่าวว่า เฮซบอลลาห์ยิงจรวดเกือบ 9,000 ลูกเข้าใส่ภาคเหนือของตนในช่วงเกือบปีที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 49 คนในฝั่งอิสราเอล และหลายร้อยคนในฝั่งเลบานอน ทั้งยังทำให้ประชาชนหลายพันของทั้งสองฝั่งต้องกลายมาเป็นผู้พลัดถิ่นด้วย
สงครามในตะวันออกกลางที่ดำเนินมาเกือบครบปีแล้วนี้ เริ่มต้นจากการที่ฮามาสโจมตีอิสราเอลซึ่งไม่ทันตั้งตัว ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนและมีการจับตัวประกันไปยังกาซ่ากว่า 250 คน ก่อนที่ เทลอาวีฟจะส่งกองทัพไปโจมตีฉนวนกาซ่าซึ่งส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 41,400 คนเสียชีวิตไปแล้ว อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
กระดานความเห็น