Your browser doesn’t support HTML5
ยุทธศักดิ์ ธนวรรณ หรือที่หลายคนรู้จักในนาม “เชฟแต่ง” พ่อครัวไทยในอเมริกา ถูกนำตัวออกจากโรงพยาบาลในกรุงวอชิงตัน ในคืนวันพุธ ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อเดินทางไปรักษาตัวในประเทศไทย ท่ามกลางการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อของครอบครัว
วิกฤติสุขภาพของยุทธศักดิ์ เจ้าของเพจทำอาหาร “ครัวแต่งศรีมณีเด้ง By เชฟแต่ง USA” ที่มีผู้ติดตามหลายแสนคน ได้รับความสนใจอย่างมากจากคนไทยทั้งในและต่างประเทศ หลังจากที่พ่อครัวไทยวัย 33 ปี ล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมอง หรือเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้ต้องรักษาตัวเกือบ 4 เดือนในโรงพยาบาล
Your browser doesn’t support HTML5
โดยก่อนหน้านี้ ศราวุฒิ และสุดสวาท ธนวรรณ พี่ชายฝาแฝดและพี่สาวของยุทธศักดิ์ ได้ออกมาขอความช่วยเหลือ ระดมทุน 8 ล้านบาท เพื่อนำน้องชายคนเล็กกลับมารักษาตัวต่อที่ประเทศไทย
“ค่าใช้จ่ายเราเตรียมไว้ แต่มันสูงกว่าที่เตรียมไว้มาก ทางครอบครัวจึงอยากจะขอร้อง ขอความเมตตา จากพี่ ๆ เอฟซี (FC) จากพี่ ๆ แฟนเพจทุก ๆ ท่านที่ติดตามเชฟแต่ง ที่รักเชฟแต่ง ช่วยกันบริจาคสมบทบทุนให้เชฟแต่งได้กลับประเทศไทย คนละเล็กละน้อยไม่ต้องเยอะนะครับ” ศราวุฒิกล่าวไว้ในคลิปที่โพสท์เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ศราวุฒิ และสุดสวาท ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอไทยว่า ที่ผ่านมาน้องชายมีการตอบสนองดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้รับทราบว่าจะได้เดินทางกลับบ้าน
"บอกเขาว่าจะได้กลับประเทศไทยในอีกไม่กี่วัน เขาก็น้ำตาไหล ดีใจ ก็ให้กำลังใจน้องครับ ขอให้เขาสู้ แล้วก็ไม่ต้องกลัว เพราะเขากลัวการขึ้นเครื่องบิน ก็บอกไม่ต้องกลัวเพราะมีหมอที่เก่ง ทีมแพทย์ที่เก่งติดตามมากับเขาด้วย แล้วก็ที่บ้านก็รอเป็นห่วง ที่บ้านก็ให้กำลังใจ บอกให้เขาสู้ ๆ"
ยุทธศักดิ์ ทำงานเป็นพ่อครัวในร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน และเป็นที่รู้จักอย่างมากบนโลกออนไลน์ เจ้าของวลี “เว่อร์วังอลังการ” มีเพจและช่องยูทูปสอนทำอาหาร เป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารไทย และผู้ที่สนใจวิถีชีวิตพ่อครัวในอเมริกา
เชฟแต่ง ซึ่งเป็นคนชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก เคยเล่าไว้ในช่องยูทูปของตนว่า ตัดสินใจมาทำงานในอเมริกาเมื่ออายุเพียง 18 ปี
“คนรู้จักกันเขาก็มาถามว่าอยากมาอเมริกามั้ย มาทำงานร้านอาหารไทย ได้เงินเดือนเท่านี้ เท่านี้ เราก็สนใจ เพราะบ้านเราไม่ค่อยมีตังค์ เราเลยตัดสินใจที่จะมา”
อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลา 16 ปีที่ผ่านมา ยุทธศักดิ์อาศัยและทำงานในสหรัฐฯ โดยไม่มีเอกสารคนเข้าเมืองที่ถูกกฎหมาย หลังจากที่วีซ่าที่ใช้เดินทางเข้ามาหมดอายุลง และยังไม่มีประกันสุขภาพขั้นพื้นฐาน ด้วยเหตุนี้ การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูจากการล้มป่วยครั้งนี้ จึงมีอุปสรรคมากมาย ครอบครัวถูกปฏิเสธไม่ได้รับวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกา ทำให้ยุทธศักดิ์ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพียงลำพังเป็นเวลาหลายสัปดาห์
การนำเชฟแต่งกลับไทยจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่การหาเงินมากถึง 8 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยเครื่องบินพยาบาล หรือ air ambulance ที่มีแพทย์และพยาบาลคอยดูแลตลอดการเดินทาง สร้างความหนักใจให้กับครอบครัวธนวรรณเป็นอย่างมาก
"แม่ร้องไห้หนักมากตอนแรก ผมก็พยายามแข็งแกร่งดูแลแม่กับน้อง ต้องปลอบแม่กับน้องให้ได้ แต่บางทีมันก็ต้องร้องไห้ เพราะว่าการจะเอาเชฟแต่งมาเป็นเรื่องที่ยากมาก แปดล้านอะครับ ที่บ้านเครียดกันทุกคน ไม่ได้ทำอะไรเลย" ศราวุฒิกล่าว
ด้านสุดสวาทเสริมว่า "พอแม่ร้องไห้ หนูปลอบแม่ แม่หยุด หนูร้อง พ่อกับแม่ก็ปลอบหนู ก็ปลอบกัน ต้องเข้มแข็ง เพราะน้องรอเราอยู่"
อย่างไรก็ตาม น้ำใจและเงินบริจาคที่ได้จากคนไทยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการช่วยรณรงค์โดยชุมชนไทยในสหรัฐฯ และสื่อมวลชน กลับมีมากเกินความคาดหมาย ทำให้ครอบครัวธนวรรณได้รับเงินบริจาคตรงตามที่ตั้งใจ ในเวลาเพียงสองสัปดาห์ครึ่ง ซึ่งพี่ชายและพี่สาวของเชฟแต่ง มองว่าส่วนหนึ่งที่น้องชายได้รับความเมตตา เป็นเพราะนิสัยชอบเอื้อเฟื้อแบ่งปันของเขา
"เขาไม่คิดถึงสิ่งตอบแทนตอนที่เขาทำ เขามีความสุขกับการได้บอกสูตรอาหารกับคนที่ไม่มีงานทำ หรือใครที่ขอสูตรเขา เขาเล่าให้พ่อฟังตลอดว่ามีความสุขที่ได้บอกสูตรอาหารกับคนที่เดือดร้อนไม่มีอาชีพ”
ก่อนหน้านี้ ในวันพุธ นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้เดินทางมาเยี่ยมยุทธศักดิ์ ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน และมอบตลับพระเครื่อง เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความราบรื่น โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงวอชิงตันได้ช่วยประสานงานด้านต่าง ๆ
"เป็นโชคและเป็นบุญของคุณยุทธศักดิ์ ที่มีคนรู้จักเยอะ มีแฟนคลับเยอะ เมื่อประสบอุบัติเหตุแบบนี้ ก็มีคนเข้ามาช่วยเหลือเยอะ ครอบครัวคุณยุทธศักดิ์ก็มีความพยายามให้พาไปรักษาตัวกลับไปไทย ระดมทุนได้ ก็ขอชื่นชมทั้งครอบครัวและพี่น้องคนไทยที่ให้กำลังใจและให้ทุนทรัพย์ในการนำยุทธศักดิ์กลับไทย"
ยุทธศักดิ์ หรือเชฟแต่ง มีกำหนดถึงกรุงเทพด้วยเครื่องบินพยาบาลในช่วงบ่ายวันศุกร์นี้ ตามเวลาในประเทศไทย เขาจะต้องถูกกักตัวไว้ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 14 วัน ก่อนจะเข้ารับการรักษาพักฟื้นต่อไปในอนาคต
ครอบครัวกล่าวว่าจะดูแลยุทธศักดิ์ให้ดีที่สุด และหวังว่าเชฟแต่งจะสามารถกลับมาทำอาหาร พร้อมแบ่งปันสูตรเด็ดเคล็ดลับให้กับผู้ติดตาม ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักและภูมิใจได้อีกครั้ง