สถานทูตไทยในสหรัฐฯรับเรื่องการช่วยประสานงานและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีของพ่อครัวคนไทยในสหรัฐฯที่ล้มป่วยและต้องผ่าตัดกระทันหันจากอาการเส้นเลือดในสมองแตกที่กรุงวอชิงตันเตือนคนไทยในอเมริกาควรมีหลักประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานเพื่อคุ้มครองในกรณีจำเป็น ขณะที่ญาติของผู้ป่วยยังคงมีความหวังที่จะพา ‘เชฟแต่ง’ กลับประเทศไทย แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงมากก็ตาม
“มันมีช่วงที่ เหมือนกำลังใจมันดีขึ้นมา ช่วงที่เราเห็นน้องสามารถขยับมือได้นิดนึง บอกให้อ้าปากก็อ้าได้ เป็นช่วงที่เขาเหมือนจะรู้ และเพื่อนที่เข้าไป เขาบอกว่า ให้กำมือ เขาก็กำแน่นเลย พอบอกว่าจะกลับ เขาก็กำมือ (คนไปเยี่ยม) แน่นเลย เหมือนไม่อยากให้กลับ คือช่วงนั้นเป็นอะไรที่เราดีใจเหมือนว่าเขามีการตอบสนอง แต่ช่วงหลังเรายังไม่เห็นน้องเลย ประมาณเดือนนึง เพราะโควิด-19 รุนแรงมากเขาเลยไม่ให้เยี่ยมเลย”
สุดสวาท และศราวุฒิ ธนวรรณ พี่สาว และพี่ชายฝาแฝดของ 'ยุทธศักดิ์ ธนวรรณ' หรือ ที่ ‘เชฟแต่ง’ พ่อครัวคนไทยในสหรัฐฯ ที่ล้มป่วยกระทันหันด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก และเข้ารับการผ่าตัดก่อนจะพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจอร์จ วอชิงตัน มากว่า 3 เดือน เล่าถึงอาการล่าสุดที่พวกเขาได้รับรู้จากคลิปวีดิโอ ซึ่งเพื่อนของ ‘เชฟแต่ง’ ส่งมาให้จากโรงพยาบาลระหว่างได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม หรือกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา
หลังจากทางโรงพยาบาลต้องประกาศงดเยี่ยมผู้ป่วยโดยเด็ดขาดเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้ ‘เชฟแต่ง’ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์โดยลำพังมาตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยทางญาติเชื่อว่าการไม่มีปฏิสัมพันธ์กับญาติหรือคนที่รู้จักนั้น อาจส่งผลต่อพัฒนาการและการฟื้นฟูร่างกายที่อาจย่ำแย่ลงไป
“คือการสื่อสาร พยาบาลกับหมอคือใช้แต่ภาษาอังกฤษ คือ ‘เชฟแต่ง’ เมื่อก่อนเขาสามารถพูดได้ แต่พอเขาป่วยผมคิดว่าเขาอาจจะฟังไม่รู้ภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเกิดเป็นพี่คนไทย ตอนที่พี่คนไทยขอคุยกับเชฟแต่ง เขาตอบสนอง มีการรับรู้ได้ถ้าใช้ภาษาไทย หมอก็เลยแจ้งว่าไม่ตอบสนองเหมือนเดิม แค่ลืมตากรอกไปมา แล้วตอนที่ดูวีดิโอคอล ทำกายภาพ หมอบอกให้อ้าปาก เขาก็ไม่อ้าปาก แต่พอพี่ที่ไปเขายืนอยู่ด้วยพูดภาษาไทย เขาก็ทำช้าๆ ประมาณ 15 วินาที” ญาติของ 'เชฟแต่ง' บอกกับวีโอเอ ไทย
บุศรา กาญจนาลัย อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ช่วยประสานงานระหว่างโรงพยาบาลกับทางญาติของผู้ป่วยเพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นทั้งในด้านการเดินทางกลับประเทศ หรือ การรักษา แต่ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายด้าน
“สถานะปัจจุบันเท่าที่ได้รับแจ้ง (จากโรงพยาบาล) ก็คือ ระบบทางประสาทไม่ค่อยดีขึ้น การเคลี่อนไหวร่างกายยังไม่ได้ ก็ไม่สามารถนั่งรถเข็นได้ จากการหารือกับทางญาติ มีความประสงค์ที่จะนำคุณยุทธศักดิ์ กลับไปรักษาต่อที่ประเทศไทย ซึ่งทางโรงพยาบาลมีความกังวลในแง่ของการเดินทางว่าจะเดินทางได้โดยเป็นการเดินทาง เครื่องบินพยาบาล (Air Ambulance) เท่านั้น ทางสถานทูตฯ ก็ได้ประสานกับทางครอบครัว รวมทั้งหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินพยาบาลซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ขณะนี้ก็ได้แนะนำให้ทางญาติประสานผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศอีกทางหนึ่งด้วย เพื่อที่ว่าเข้าข่ายการขอรับการช่วยเหลือเพื่อนำคนไทยเดินทางกลับประเทศ ตามระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็จะเป็นเรื่องของการขอรับเงินช่วยเหลือโดยทำสัญญาชดใช้เมื่อเดินทางมาถึงแล้ว”
ญาติของ ‘เชฟแต่ง’ ยืนยันว่าทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ คือการพาผู้ป่วยกลับมารักษาตัวในเมืองไทย หลังจากโรงพยาบาลยื่นคำขอให้ย้ายผู้ป่วยไปยังสถานพักฟื้น หรือ ให้ญาติดูแลต่อ เนื่องจากต้องการห้องผู้ป่วยหนักให้กับผู้ป่วยโควิดรายอื่นที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้ได้เปิดขอรับบริจาคผ่านเพจ “ครัวแต่งศรีมณีเด้ง” ไปแล้วโดยคาดว่าน่าจะใช้งบประมาณราว 8 ล้านบาทในการเช่าเครื่องบินพยาบาลในการเคลื่อนย้ายตามเงื่อนไขของทางโรงพยาบาล
“คืออยากให้ช่วยบริจาคตามหน้าเพจ (ครัวแต่งศรีมณีเด้ง) ตามที่หนูได้แจ้งรายละเอียดไว้แล้ว แต่ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่บริจาคเข้ามา จะมีรายรับรายจ่ายที่จะตรวจสอบได้ เพราะเราตั้งใจที่จะเอาน้องรับกลับมา”
ขณะที่ อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตไทย กล่าวถึงอุทาหรณ์จากกรณีนี้ด้วยว่า การมองหาประกันสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นที่คนไทยซึ่งอาศัยในอเมริกาต้องไม่มองข้าม
“ปัญหาอย่างหนึ่งก็คือไม่สามารถเข้าถึงระบบประกันสุขภาพของที่นี่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้การเข้ารับการรักษาไม่ได้รับอย่างได้ทันท่วงทีเทียบเท่าคนที่อยู่ในระบบประกันสุขภาพ อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่คนไทยที่มาอยู่ที่นี่ น่าจะพยายามเข้าถึงระบบซื้อประกันสุขภาพไว้ เพราะค่ารักษาพยาบาลที่นี่ก็สูงมาก โดยเฉพาะในช่วงนี้ก็มีการระบาดของโควิด-19 การรักษาก็จะค่อนข้างลำบากขึ้น”
ยุทธศักดิ์ ธนวรรณ หรือ เชฟแต่ง เป็นพ่อครัวไทยในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่กรุงวอชิงตัน และเป็นที่รู้จักอย่างมากบนโลกออนไลน์ในฐานะเจ้าของเพจทำอาหาร “ครัวแต่งศรีมณีเด้ง” มียอดผู้ติดตามหลายแสนคน แต่โชคร้ายจากการล้มป่วยกะทันหันจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก พักรักษาอาการในห้องผู้ป่วยหนักในสภาพที่ไม่รู้สึกตัวมาแล้ว 3 เดือน ขณะที่อาการยังอยู่ในภาวะทรงตัว แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด ที่หนักมากขึ้นทำให้ทางโรงพยาบาลต้องขอให้มีการเคลื่อนย้ายจากห้องผู้ป่วยหนักไปสู่สถานที่พักฟื้น หรือ อยู่ในการดูแลของญาติต่อไป
