ยุทธศักดิ์ ธนวรรณ หรือ ที่หลายคนรู้จักในชื่อ ‘เชฟแต่ง USA’ พ่อครัวคนไทยในสหรัฐฯ เจ้าของเพจ ทำอาหาร “ครัวแต่งศรีมณีเด้ง” ที่มีผู้ติดตามหลายแสนคน ‘’ ซึ่งล้มป่วยหนักจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือ เส้นเลือดในสมองแตก ต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน และรักษาตัวในโรงพยาบาลจอร์จ วอชิงตัน ในกรุงวอชิงตัน โดยลำพังและไม่รู้สึกตัวมากว่า 3 เดือน กำลังอยู่ในช่วงเวลาวิกฤตอีกครั้ง
วันนั้นเขา บอกว่า จะเอาสายเครื่องช่วยหายใจออก คือ..ให้น้องไปเลย”สุดสวาท ธนวรรณ
แม้แพทย์จะผ่าตัดช่วยเหลือจนอาการดีขึ้น และอยู่ในสภาวะทรงตัว แต่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้โรงพยาบาลจำเป็นต้องแจ้งขอให้ย้ายออกไปพักฟื้น เพื่อเปิดทางให้กับผู้ป่วยฉุกเฉินรายอื่น
สุดสวาท ธนวรรณ และ ศราวุฒิ ธนวรรณ พี่สาว และพี่ชายฝาแฝดของ ‘เชฟแต่ง’ ญาติที่ยังอยู่เมืองไทย ให้สัมภาษณ์กับ วีโอเอ ผ่าน วีดิโอคอล ถึงสถานการณ์ล่าสุด
“เขาแจ้งแค่ว่า เขาต้องการให้นำออกจากโรงพยาบาล เพราะเขาต้องการใช้ห้อง เพราะว่าผู้ป่วยวิกฤตเขาเยอะครับ ตอนนี้ เพราะว่า ‘เชฟแต่ง’ อาการเขาไม่สามารถจะรักษาต่อไปได้แล้ว อาการทรงตัวแล้ว พ้นวิกฤตไปแล้ว แต่อยู่ในช่วงพักฟื้น..เขาให้ข้อเสนอมาว่าถ้าไม่สามารถเอากลับเมืองไทยได้ ก็ต้องส่งให้ญาติที่รัฐเท็กซัส แต่ก็แจ้งไปแล้วว่าญาติทางนั้น คงไม่สามารถดูแลได้ เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียว ทำงานเต็มเวลา สถานที่พักก็ดูแลไม่ได้... วันนั้นเขาแจ้งผ่านกับทางเจ้าหน้าที่กงสุลไทยที่ช่วยแปลภาษาให้ บอกว่า จะเอาสายเครื่องช่วยหายใจออก คือ..ให้น้องไปเลย”
ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่พยายามขอวีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพื่อขอมาดูแลน้องชายที่ป่วยหนัก แต่ต้องถูกปฏิเสธวีซ่า ด้วยเหตุผลบางประการ
“(วีซ่า) ไม่ผ่านพี่ รอบแรกขอวีซ่าไม่ผ่าน ก็เลยแจ้งไปที่เจ้าหน้าที่กงสุลไทย ที่อเมริกา ให้ช่วย ก่อนจะขอรวบรวมเอกสารการรักษาตัวของน้อง ไปยื่นอีกในรอบที่สอง ที่เขาบอกให้ไปยื่นอีกทีนึง วีซ่าก็ไม่ผ่านอีก ก็ได้รับการปฏิเสธมา ก็เข้าใจว่าน้องไปแบบผิด ไม่ถูกต้อง มันก็อาจจะเป็นการอยู่เกินกำหนดของวีซ่า (overstay) อะไรแบบนี้มันก็อาจจะมีส่วน เพราะเรานามสกุลเดียวกัน” ญาติของ 'เชฟแต่ง' กล่าว
การที่ ยุทธศักดิ์ หรือ ‘เชฟแต่ง’ เดินทางเข้ามาอาศัยและทำงานในสหรัฐฯ โดยไม่มีสถานะการตรวจคนเข้าเมืองที่ถูกต้อง มากว่า 16 ปี ขณะเดียวกันก็ไม่มีหลักประกันสุขภาพขั้นพื้นฐาน ทำให้ทางเลือกในการช่วยเหลือมีไม่มากนัก เพราะการส่งตัวไปสถานพักฟื้นในช่วงการระบาดของโควิดแทบเป็นไปไม่ได้ หรือจะต้องเสียค่าใช้จ่าราว 15,000 เหรียญหรือราว 400,000 บาทต่อเดือน
หนูยืนยัน ขอเวลาก่อน ขอประวิงเวลา ขอร้องให้เขาดูก่อน เราต้องเอาน้องกลับ และต้องรีบดำเนินการ แล้วช่วงตอนนี้เป็นช่วงวิกฤตโควิดด้วย สายการบินพาณิชย์ทุกสายก็ไม่รับเลย ...สุดสวาท ธนวรรณ
“มีอีกอัน (ที่เป็นทางเลือก) คือเนิร์สซิ่งโฮม สถานพยาบาลเพื่อการพักฟื้น แต่เขาก็ไม่รับอยู่แล้ว คือเขาไม่รับเลยตั้งแต่ช่วงแรก คือเขาบอกว่า คือ ‘เชฟแต่ง’ ไม่มีประกันสุขภาพ ไม่มีอะไรเลย เขาก็เลยไม่รับ และตอนนี้มันเป็นวิกฤตโควิด-19 ด้วยเขายิ่งไม่รับใหญ่เลย’
‘ก็คือหนูยืนยัน ขอเวลาก่อน ขอประวิงเวลา ขอร้องให้เขาดูก่อน มันก็เลยเป็นการที่เราต้องเอาน้องกลับ และต้องรีบดำเนินการ แล้วช่วงตอนนี้เป็นช่วงวิกฤตโควิดด้วย สายการบินพาณิชย์ทุกสายก็ไม่รับเลย และแพทย์ก็แจ้งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าจะเซ็นต์อนุญาตให้กลับก็ต่อเมื่อ ‘เชฟแต่ง’ นั่งเครื่องด้วยสายการบินส่วนตัว ที่มีหมอ พยาบาล และเครื่องมือครบ หรือ เป็นแบบเครื่องบินพยาบาล (Air Ambulance) เท่านั้น เขาถึงจะยินยอมเซ็นต์ สายการบินพาณิชย์เขาจะไม่อนุญาต” สุดสวาท ธนวรรณ บอกกับ วีโอเอ ไทย
แต่การเดินทางการระหว่างประเทศในช่วงมีการระบาดของโควิด-19 เพิ่มความยากลำบากและเพิ่มค่าใช้จ่ายจากสภาวะปกติหลายเท่าตัว ทั้งเงื่อนไขของแพทย์ที่ไม่สามารถให้ผู้ป่วยเดินทางได้หากไม่ปลอดภัย หรือเงื่อนไขของสายการบินพาณิชย์ที่เข้มงวดเป็นพิเศษกับผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหนัก แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับญาติในขณะนี้
ติดตามรายงานตอนต่อไป กับสัญญาณในด้านบวกที่ถือเป็นความหวัง ของญาติๆ ที่จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะพา เชฟแต่ง กลับมาดูและพักฟื้นที่เมืองไทยให้ได้ รวมทั้งแนวทางการช่วยเหลือของสถานเอกอัครราชทูตไทยที่เข้าไปดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด