รัฐบาลตาลิบันออกมาร้องขอให้สายการบินต่างชาติ กลับมาเปิดเที่ยวบินพาณิชย์ที่สนามบินกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า สถานการณ์ต่างๆ ที่สนามบินหลักแห่งนี้ได้รับการคลี่คลาย และทุกอย่างพร้อมสำหรับการให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว
สนามบินกรุงคาบูลนั้นปิดบริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ในช่วงที่เกิดคลื่นผู้คนซึ่งมีทั้งชาวต่างชาติและชาวอัฟกันนับหมื่นคนพากันอพยพออกนอกประเทศ หลังจากที่กลุ่มตาลิบันเข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลพลเรือนชุดก่อนเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่กองทหารสหรัฐฯ และของพันธมิตรกำลังดำเนินการถอนกำลังออกจากประเทศเอเชียกลางแห่งนี้อยู่
และหลังจากการซ่อมแซมพื้นที่สนามบินซึ่งได้รับความเสียหายในช่วงเกิดคลื่นการอพยพอันแสนวุ่นวายโกลาหลแล้ว สนามบินกรุงคาบูลกลับมาเปิดให้บริการแบบจำกัด สำหรับเที่ยวบินนำส่งความช่วยเหลือและเที่ยวบินโดยสารแบบเหมาลำ ด้วยความช่วยเหลือด้านเทคนิคส่วนใหญ่จากประเทศกาตาร์
อับดุล กาฮาร์ บัลคี โฆษกคนใหม่ของกระทรวงการต่างประเทศตาลิบัน กล่าวว่า การที่สายการบินระหว่างประเทศถูกระงับการให้บริการไปนั้น ทำให้ชาวอัฟกันจำนวนมาต้องตกอยู่ในภาวะติดเกาะ เดินทางไปไหนมาไหนไม่ได้ พร้อมย้ำว่า ชาวอัฟกันส่วนใหญ่ซึ่งเป็นสตรี เด็ก นักเรียน ผู้ป่วย และผู้ทำธุรกิจการค้า จำเป็นต้องเดินทางได้อย่างอิสระ ขณะที่ ประชาชนชาวอัฟกันจำนวนไม่น้อย ซึ่งทำงานในต่างประเทศ หรือกำลังศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ กำลังประสบปัญหาไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายของตนได้ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า สายการบินต่างๆ ยังไม่มีท่าทีตอบสนองต่อคำเรียกร้องของรัฐบาลตาลิบันในเรื่องการกลับมาเปิดให้บริการที่กรุงคาบูล และ วีโอเอ ได้ลองติดต่อสายการบิน Pakistan International Airlines ซึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ทางสายการบินพร้อมที่จะกลับมาเริ่มให้บริการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์อีกครั้ง ระหว่างกรุงอิสลามาบัดและกรุงคาบูล แต่เงื่อนไขที่ภาคพื้นดินนั้นยังมีความยุ่งยากอยู่ และ “อัตราเบี้ยประกันนั้นยังสูงเกินไป” กว่าที่จะกลับมาเปิดบริการได้