Your browser doesn’t support HTML5
ถึงแม้ประเทศพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย จะสนับสนุนการยิงจรวดขีปนาวุธโจมตีซีเรีย เพื่อตอบโต้การที่ซีเรียใช้อาวุธสารเคมีกับประชาชน
แต่ความสนับสนุนดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดขึ้นโดยปราศจากเงื่อนไข เพราะเมื่อค่ำวันอังคาร นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ กล่าวระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าอังกฤษต้องการหลักฐานเพิ่มเติมว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธสารเคมีโจมตีที่มั่นของกลุ่มที่ต่อต้านประธานาธิบดี บะชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย เมื่อวันเสาร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน และบาดเจ็บอีกราว 500 คน
ส่วนประธานาธิบดีมาคร็อง ของฝรั่งเศส ก็กล่าวว่า ฝรั่งเศสพร้อมจะร่วมใช้มาตรการเพื่อลงโทษซีเรีย ถ้าสามารถยืนยันได้ว่า ประธานาธิบดีอัสซาดก้าวข้ามเส้นด้วยการใช้อาวุธสารเคมี
อย่างไรก็ตาม ผู้นำฝรั่งเศสดูจะต้องการให้มีการโจมตีในวงจำกัด โดยมุ่งเป้าไปที่สถานที่ตั้งอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียมากกว่า
คำถามที่สำคัญขณะนี้ก็คือ การโจมตีด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯ จะมีผลในทางยับยั้งอย่างไรหรือไม่? เพราะเมื่อปีที่แล้ว การที่สหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธสั่งสอนซีเรีย หลังจากที่รัฐบาลซีเรียใช้แก๊สพิษซารินในจังหวัดอิดลิบ ทางเหนือของประเทศนั้น ดูจะไม่สามารถยับยั้งประธานาธิบดีอัสซาดจากการใช้อาวุธสารเคมีครั้งใหม่ได้
นอกจากนั้นแล้ว นักวิเคราะห์ยังชี้ว่า การที่สหรัฐฯ กับประเทศพันธมิตรสื่อสารกัน และเปิดเผยท่าทีว่าอาจใช้มาตรการทางทหารเข้าตอบโต้ซีเรีย ก็เป็นโอกาสให้ซีเรีย รวมทั้งประเทศที่ให้ความสนับสนุนอยู่ เช่น อิหร่านกับรัสเซีย มีเวลาเตรียมตัวรับมือ รวมทั้งยังมีโอกาสเตรียมระบบต่อต้านขีปนาวุธและเคลื่อนย้ายเป้าหมายออกจากพื้นที่ได้ด้วย
นักวิเคราะห์ยังชี้ด้วยว่า สถานการณ์ในซีเรียปัจจุบันต่างจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เพราะขณะนี้มีผู้เล่นหรือประเทศที่เข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องในซีเรียเพิ่มขึ้น คืออิหร่านกับรัสเซีย
แต่ไม่ว่าประสิทธิผลของการยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรียจะเป็นอย่างไร Lord Richard Dannatt อดีตผู้บัญชาการกองทัพของอังกฤษ กล่าวว่า การตอบโต้ซีเรียควรทำไปภายใต้ยุทธศาสตร์โดยรวม และว่าการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธอย่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์เคยทำเมื่อปีที่แล้ว จะไม่ทำให้เกิดผลอะไรขึ้นมา
นอกจากนั้น ส.ส. ของอังกฤษในพรรครัฐบาล ก็แสดงความกังวลเช่นกันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายเกี่ยวกับซีเรียที่ชัดเจนและแน่นอน