กองทัพกับกองกำลังกึ่งทหารเคลื่อนที่เร็ว อาร์เอสเอฟ (Rapid Support Forces) ของซูดาน ประกาศในวันอังคารว่า ต่างตกลงที่จะหยุดยิงเป็นเวลา 3 วัน หลังตัวแทนของทั้งสองฝ่ายที่สู้รบกันมาเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ร่วม “เจรจาอย่างเข้มข้น” กับสหรัฐฯ
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า “เพื่อสนับสนุนการยุติการต่อสู้ที่จะคงอยู่ต่อไป สหรัฐฯ จะประสานงานกับหุ้นส่วนในภูมิภาคและระหว่างประเทศ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคพลเรือนของซูดาน เพื่อช่วยจัดตั้งคณะกรรมการดูแลการเจรจา การหาข้อสรุป และการดำเนินการยุติสงครามและการจัดการด้านมนุษยธรรมอย่างถาวรในซูดานต่อไป”
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนในวันอังคารให้ทุกฝ่ายระวัง “ความเสี่ยงด้านชีวภาพครั้งใหญ่” หนึ่งในสองฝ่ายของความขัดแย้งในซูดานเข้ายึดห้องแล็บที่เป็นที่เก็บเชื้อโรคหัดและอหิวาตกโรค และวัตถุอันตรายอื่น ๆ อยู่
นิมา ซาอีด อาบิด ตัวแทนขององค์การอนามัยโลกในซูดาน ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่า ฝ่ายในในซูดานที่เข้ายึดห้องแล็บดังกล่าว แต่บอกกับผู้สื่อข่าวว่า สถานการณ์นั้น “อันตรายอย่างที่สุด”
ซาอีด อาบิด ระบุว่า “นี่คือความกังวลหลัก ... ซึ่งก็คือ การที่ไม่มีทางเข้าถึงเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของแล็บเพื่อเข้าไปในห้องปฏิบัติการและจัดเก็บวัตถุและสารชีวภาพต่าง ๆ ในนั้น”
ในส่วนของสถานการณ์การสู้รบที่ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนนั้น หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติประเมินว่า มีประชาชนอย่างน้อย 427 คนที่เสียชีวิตและมีผู้คนไม่น้อยกว่า 3,700 คนที่ได้รับบาดเจ็บจากความไม่สงบนี้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น “ใช้อำนาจต่อรองขั้นสูงที่สุดกับฝ่ายต่าง ๆ เพื่อยุติเหตุความรุนแรง นำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาและนำพาให้(ซูดาน)มุ่งหน้าไปในเส้นทางของการโอนถ่ายทางประชาธิปไตย”
กูเทอเรซ กล่าวด้วยว่า ยูเอ็นจะไม่ทอดทิ้งซูดาน แต่ได้ย้ายเจ้าหน้าที่ “นับร้อยคน” ที่อยู่ทั้งในและนอกประเทศนี้ไปทำงานที่อื่นเป็นการชั่วคราวแล้ว
ทั้งนี้ การสู้รบรุนแรงนับสัปดาห์ในซูดานส่งผลให้นานาประเทศ อาทิ แคนาดา อียิปต์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สวีเดน ยูเครนและสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินและขบวนรถเข้าไปในประเทศนี้เพื่อนำพาพลเมืองและเจ้าหน้าที่ของตนออกมา
SEE ALSO: นานาประเทศแห่นำนักการทูต-พลเมือง ออกจากซูดานท่ามกลางสงครามกลางเมือง
รายงานข่าวระบุว่า บุคลากรของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อพยพออกจากกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดานแล้ว ส่วนใหญ่มาถึงกรุงวอชิงตันตั้งแต่เมื่อบ่ายวันจันทร์
กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเปิดเผยด้วยว่า ได้เริ่มการอพยพเจ้าหน้าที่ของตนในวันอังคารด้วยเครื่องบินจากสนามบินที่นอกกรุงคาร์ทูม ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในวันอังคารว่า พลเมืองส่วนใหญ่ของตนได้รับการอพยพออกมาจากซูดานโดยปลอดภัยแล้วเช่นกัน
สำหรับประชาชนชาวซูดานนั้น คนจำนวนมากต้องหาทางอยู่รอดท่ามกลางภาวะไม่มีไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต โดยบางส่วนยอมเสี่ยงตายหาทางหลบหนีออกนอกประเทศด้วยรถยนต์และรถโดยสารผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตรายยิ่ง
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์