'สายลับต่างชาติ' นิยมแฝงตัวเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ

Your browser doesn’t support HTML5

A woman collects dried incense sticks at a courtyard in Quang Phu Cau village on the outskirts of Hanoi, ahead of the upcoming Lunar New Year celebrations, referred to in Vietnam as Tet.

Your browser doesn’t support HTML5

สายลับต่างชาติแฝงตัวในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ

ภายในรั้วมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นสถานที่เเรกที่นักสอดแนมจะแฝงตัวเข้าไปปนเปกับนักศึกษา

เเต่ แดน โกลด์เดน (Dan Golden) ผู้สื่อข่าวสายสอบสวน กล่าวว่าคุณจะแปลกใจ เพราะมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เต็มไปด้วยนักสอดแนมหรือสายลับ

โกลด์เดน กล่าวว่า ในมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ มีนักศึกษาเเละศาสตราจารย์ชาวต่างชาติจำนวนมากมาย บางคนมาหาข้อมูลให้แก่ประเทศของตน ไม่ว่าจะเป็นความลับทางวิทยาศาสตร์หรือมาสร้างเเหล่งข่าว

โกลด์เดน พูดถึงตัวอย่างการสอดแนมในรั้วมหาวิทยาลัยในหนังสือที่เขาเขียน เรื่อง “สปาย สคูลส์” ("Spy Schools") เขากล่าวว่ามหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ เป็นแหล่งดึงดูดนักสอดแนม เพราะมีการเเลกเปลี่ยนทางความคิดและวัฒนธรรมกันอย่างอิสระ

ชาร์ลี แม็คกอลนิกัล (Charlie Mcgonigal) เจ้าหน้าที่พิเศษที่ดูแลฝ่ายต่อต้านข่าวกรองของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ กล่าวว่า นี่เป็นปัญหาใหญ่มากเ พราะในสหรัฐฯ สถาบันการศึกษาเปิดกว้าง มีการศึกษาวิจัยและการพัฒนามากมายที่บรรดารัฐบาลต่างชาติต้องการได้ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ และจะส่งนักศึกษาของตนเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยอเมริกันเพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ

ส่วนชาวอเมริกันที่ไปเรียนในต่างประเทศก็มักตกเป็นเหยื่อของรัฐบาลต่างชาติที่ต้องการใช้เป็นนักสอดแนม

ในปี พ.ศ. 2557 เอฟบีไอได้สนับสนุนเงินในการสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่อิงเนื้อหาจากเรื่องจริง เกี่ยวกับนาย เกลน ชริฟเฟอร์ (Glenn Shriver) นักศึกษาชาวอเมริกันที่รัฐบาลจีนว่าจ้างให้เป็นนักสอดแนมแก่จีน

เเม็คกานิกัลกล่าวว่า นักศึกษาถูกใช้โดยรัฐบาลต่างชาติให้เป็นสายลับ เเละสั่งให้ไปสมัครทำงานในรัฐบาลสหรัฐฯ หรือในภาคเอกชนที่ต้องการได้ข้อมูลไปใช้ประโยชน์

อเล็กซ์ แวน เเชค (Alex van Schaick) เป็นนักศึกษาทุนฟูลไบรท์ ที่ทำวิจัยด้านสหภาพเเรงงานต่างๆ ในประเทศโบลิเวีย ในตอนที่เขาได้พบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ คนหนึ่ง เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนดังกล่าวบอกกับเขาว่า เวลาไปทำงานเก็บข้อมูลภาคสนามในเขตชนบท เเล้วไปเจอแพทย์ชาวคิวบาหรือเจ้าหน้าที่ชาวเวเนซุเอล่า ขอให้ช่วยเเจ้งให้สถานทูตอเมริกันรู้ด้วยว่าไปเจอเจ้าหน้าที่เหล่านี้ที่ไหน เพราะทางสถานทูตจะได้รู้ว่ามีคนจากสองชาตินี้ไปทำงานในเขตชนบทที่ใดเเละต้องการจับตาดู

แต่ทางเอฟบีไอบอกว่า การให้นักศึกษาอเมริกันในต่างประเทศสอดแนมให้รัฐบาลสหรัฐฯ แบบนี้เกิดขึ้นน้อยมาก

แม็คกานิกอล แห่งเอฟบีไอ บอกว่า ข้อตกลงแบบนี้เกิดขึ้นเพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น เเต่ไม่เกิดขึ้นบ่อยหรือร้ายแรงเท่ากับที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาชาวอเมริกันที่ถูกรัฐบาลจีนหรือรัสเซียใช้ให้สอดแนม

ด้าน โกลด์เดน กล่าวว่า การสร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับความชุกของการสอดแนมในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯ เป็นกุญแจสำคัญ โดยอ้างกรณีที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งเกี่ยวข้องกับสายลับชาวรัสเซียหลายคนที่แอบแฝงตัวเป็นชาวอเมริกันนานเป็นเวลาหลายปี

แดน โกลด์เดน ผู้สื่อข่าวแนวสอบสวน กล่าวว่า สายลับส่วนมากเข้าไปเรียนในวิทยาลัยเเละมหาวิทยาลัยอเมริกัน หรือเรียนจบเเล้วจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ

และการได้ปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยอเมริกันเป็นวิธีหนึ่งที่รัสเซียใช้ในการช่วยกลบเกลื่อนไม่ให้คนสงสัยว่าเป็นสายลับรัสเซีย

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)