หลังสงครามในยูเครนดำเนินมากว่าปี การสู้รบระหว่างกองทัพมอสโกและกองกำลังกรุงเคียฟได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการรบมาเป็นการต่อสู้ระหว่างกองทหารราบในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนมากขึ้น โดยกระทรวงกลาโหมอังกฤษให้เหตุผลในวันอาทิตย์ว่า เป็นเพราะรัสเซียเริ่มประสบภาวะขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่นั่นเอง
ในการประเมินสถานการณ์ล่าสุดนี้ กระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า “หลักฐานใหม่ชี้ให้เห็นว่า มีการต่อสู้แบบประจัญบานเพิ่มมากขึ้นในยูเครน นี่น่าจะเป็นผลมาจากการที่กองบัญชาการรัสเซียยังเดินหน้ายืนยันจะทำการจู่โจมด้วยกองพลทหารราบเดินเท้าเป็นหลัก”
กระทรวงกลาโหมอังกฤษกล่าวด้วยว่า เมื่อปลายเดือนที่แล้ว รัสเซียสั่งระดมพลสำรองที่เปิดเผยว่า พวกตน “ถูกสั่งให้โจมตีที่มั่นอันแข็งแกร่งของยูเครน โดยมีอาวุธเพียง ‘ปืนและพลั่ว’ (โดย) ‘พลั่ว’ นั้นน่าจะหมายถึง เครื่องมือที่เอาไว้ใช้ขุดสนามเพลาะซึ่งถูกนำมาใช้สำหรับการสู้รบแบบประชิดตัว”
รายงานล่าสุดจากอังกฤษยังชี้ด้วยว่า “ระดับความรุนแรงที่ทำให้ถึงตายได้โดยอุปกรณ์ขุดสนามเพลาะ MPL-50 แบบมาตรฐานนั้น ถูกนำมาเล่าเป็นตำนานในรัสเซียมานานแล้ว” โดย “แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านรูปแบบ(ของอุปกรณ์นี้) มาตั้งแต่ปี 1869 แล้ว” และว่า “การเดินหน้าใช้อุปกรณ์ดังกล่าวต่างอาวุธแสดงให้เห็นถึง การต่อสู้แบบโลว์เทคแต่ดุดันที่เป็นสภาพการต่อสู้ในสงครามในเวลานี้แล้ว”
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษยังกล่าวด้วยว่า “พลทหารสำรองนายหนึ่งอธิบายว่า พวกตนไม่ได้ถูกเตรียมพร้อม ‘ทั้งทางกายหรือจิตใจ’ ให้ร่วมรบเลย”
ในส่วนของสถานการณ์การรบเมื่อวันเสาร์ กองทหารยูเครนที่ตั้งมั่นทำการรบอยู่ในเมืองบาคห์มุตยังคงเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นจากกองกำลังรัสเซีย ขณะที่ มีการให้ความช่วยเหลือพลเรือนให้ลี้ภัยออกจากเมืองที่ถูกศัตรูโอบล้อมอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี ตัวแทนของกองทัพยูเครนรายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าว เอพี ว่า ในเวลานี้ สถานการณ์นั้นอันตรายเกินกว่าจะเดินทางออกจากบาคห์มุตด้วยรถยนต์ได้แล้ว ดังนั้น พลเรือนที่ต้องการหลบภัยออกจากเมืองต้องใช้วิธีเดินเท้าเท่านั้น โดยทหารยูเครนได้สร้างสะพานลอยน้ำในวันเสาร์เพื่อช่วยพลเรือนให้เดินทางไปยังหมู่บ้านโครโมเวที่อยู่ใกล้ ๆ แล้ว
ถึงกระนั้น มีสตรีคนหนึ่งเสียชีวิตระหว่างพยายามหลบหนีออกจากบาคห์มุตผ่านสะพานดังกล่าว และมีชาย 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย ตามข้อมูลของทหารยูเครนที่ให้ความช่วยเหลือพลเรือนเหล่านี้
ทั้งนี้ ข้อมูลข่าวกรองจากกองทัพอังกฤษและนักวิเคราะห์ชาติตะวันตกระบุว่า กองทหารยูเครนได้ทำลายสะพานหลัก ๆ สองแห่งนอกเมืองบาคห์มุต ซึ่งส่งผลให้เส้นทางขนส่งเสบียงเส้นทางสุดท้ายถูกตัดขาดไปแล้ว
สถาบัน Institute for the Study of War ให้ความเห็นว่า การทำลายสะพานที่ว่าน่าจะเป็นสัญญาณว่า กรุงเคียฟกำลังเตรียมตัวทิ้งเมืองแห่งนี้อยู่ และทหารยูเครนอาจกำลัง “ทำการถอนกำลังอย่างจำกัดและมีการควบคุมไว้ โดยเฉพาะจากจุดที่สถานการณ์รบรุนแรงเป็นพิเศษในพื้นที่ทางตะวันออกของบาคห์มุต” พร้อม ๆ กับการทำให้ฝ่ายรัสเซียไล่ล่าตนได้ยากขึ้นไปด้วย
ถ้าหากนักรบรัสเซียสามารถยึดเมืองบาคห์มุตได้ นี่จะถือเป็นการมีชัยที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก นับตั้งแต่เมื่อรัสเซียเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเมื่อหลายเดือนก่อน และชัยชนะนี้อาจเปิดโอกาสให้มอสโกสามารถตัดเส้นทางส่งเสบียงคลังของยูเคนและเดินหน้าบีบที่มั่นอื่น ๆ ของกองกำลังยูเครนในเขตปกครองดอแนตสก์ได้ด้วย
โวโลดิเมียร์ นาซาเรนโก รองผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันประเทศยูเครน ระบุระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Kyiv24 ว่า เมืองบาคห์มุตยังคงอยู่ในมือของยูเครน แม้จะมีการโจมตีอย่างหนักจากกองกำลังรัสเซียอย่างต่อเนื่องก็ตาม
นาซาเรนโก กล่าวว่า “ทุกชั่วโมงในบาคห์มุตเป็นเหมือนนรก ศัตรูเป็นฝ่ายมีชัยทางเหนือ ตะวันตกเฉียงเหนือของบาคห์มุต เมื่อสัปดาห์ก่อน ทหารยูเครนกำลังสู้กลับ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แนวหน้าของการสู้รบเริ่มทรงตัว ... เพราะความมานะและอุตสาหะของพวกเราทุกคน”
โอเล็กซานเดอร์ มาร์เชนโก รองนายกเทศมนตรีเมืองบาคห์มุต ยืนยันกับสื่อบีบีซี เช่นกัน ว่า “ขอบคุณกองกำลังยูเครน (ที่ทำให้พวกรัสเซีย)ยังไม่สามารถยึดครองเมืองไปได้”
มาร์เชนโก เปิดเผยด้วยว่า มีพลเรือนราว 4,000 คนที่ยังอยู่ในเมืองที่เคยมีประชากรถึงราว 70,000 คนและตอนนี้แทบจะเหลือแต่ซาก โดยคนเหล่านี้อาศัยอยู่ในที่หลบภัยโดยปราศจากก๊าซ ไฟฟ้า หรือน้ำเลย
ขณะเดียวกัน เยฟเกนี พริโกชิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มแว็กเนอร์ กรุ๊ป องค์กรทหารรับจ้างที่ร่วมรบกับฝ่ายรัสเซีย โพสต์คลิปวิดีโอในวันเสาร์ที่แสดงให้เห็นภาพโลงศพจำนวนหนึ่งที่อ้างว่า บรรจุร่างของทหารยูเครนที่จะมีการส่งไปยังพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของกรุงเคียฟ พร้อมระบุว่า “เรากำลังส่งนักสู้กองทัพยูเครนอีกกลุ่มกลับบ้าน พวกเขาต่อสู้อย่างกล้าหาญจนสิ้นชีพ นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมรถบรรทุกคันล่าสุดจะนำพาพวกเขากลับไปยังมาตุภูมิ”
และในวันเสาร์เช่นกัน เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเดินทางเยือนทหารของตนที่อยู่ในยูเครน โดยคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นภาพขณะที่ ชอยกูมอบเหรียญให้กับเจ้าหน้าที่กองทัพรัสเซียระหว่างตรวจเยี่ยมกองบัญชาการรบตอนหน้าด้วย
นอกจากนั้น รายงานข่าวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยังคงอยู่ที่เมืองลวิฟในวันเสาร์ เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาท้องถิ่น เพื่อหารือประเด็นความมั่นคง พลังงาน การปกป้องคุ้มครองทางสังคม ปัญหาการเงินและประเด็นการปราบปรามคอร์รัปชัน
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพีและรอยเตอร์