รัสเซียประกาศผนวกพื้นที่ยูเครนเข้ากับตน

From left to right, the Moscow-appointed heads of Kherson region Vladimir Saldo and Zaporizhzhia region Yevgeny Balitsky, Russian President Vladimir Putin, Donetsk separatist leader Denis Pushilin and Lugansk separatist leader Leonid Pasechnik join hands

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศการผนวกพื้นที่ใน 4 เขตปกครองของยูเครนเข้ากับรัสเซีย แม้ว่ากองกำลังของรัฐบาลมอสโกอาจจะประสบความปราชัยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานประเทศเพื่อนบ้านของตนในเร็ว ๆ นี้แล้วก็ตาม

ปธน.ปูติน ประกาศในระหว่างการทำพิธีผนวกดินแดนดังกล่าวที่ทำเนียบเครมลินในวันศุกร์ว่า “ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองลูอันสก์ ดอแนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริห์เชีย กำลังจะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชาติของเราตลอดไปแล้ว”

Event marking Russia's annexation of four Ukrainian territories held in Luhansk

ในการนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ตอบโต้ออกมาด้วยคำประกาศว่า ตนกำลังยื่นใบสมัคร “แบบเร่งด่วน” เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรทางทหารนาโต้แล้ว

ทำเนียบขาวประณามการยึดแผ่นดินของรัสเซียเช่นกัน โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์เรียกการผนวกแผ่นดินนี้ว่าเป็นเรื่องหลอกลวง และระบุว่า

“รัสเซียกำลังละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และทำการเหยียบย่ำกฎบัตรสหประชาชาติ และแสดงให้เห็นถึงการที่รัสเซียไม่เคารพต่อชาติใด ๆ ที่สนับสนุนสันติภาพด้วย”

ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯ และพันธมิตรทั้งหลายจะดำเนิน “มาตการลงโทษรุนแรงและมีผลอย่างรวดเร็วต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซียอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งต่อสมาชิกในครอบครัวของคนเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ทางทหารของรัสเซียและเบลารุส และเครือข่ายการจัดซื้อาวุธทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงซัพพลายเออร์อาวุธจากชาติอื่น ๆ ที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและกิจการทางทหารของรัสเซียด้วย”

SEE ALSO: มอสโกอ้าง ชาวยูเครนในพื้นที่ยึดครอง ‘สนับสนุนการผนวกเข้ากับรัสเซีย’

ก่อนหน้านี้ รัสเซียอ้างว่า ผลการทำประชามติในพื้นที่ 4 จุดของยูเครนซึ่งกองกำลังรัสเซียยึดครองไว้อยู่ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับรัสเซีย โดยขนาดของพื้นที่ทั้งหมดนี้คิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของพื้นที่รวมของยูเครน

ยูเครนระบุว่า การทำประชามตินี้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและดำเนินการภายใต้การบังคับยึดครอง

ก่อนการประกาศผนวกอาณาเขตในวันศุกร์ ทำเนียบเครมลินได้ออกมาประกาศแล้วว่า การรุกรานเข้าไปในพื้นที่ที่ได้รับการผนวกแล้วนั้นจะถือเป็นการโจมตีต่อรัสเซีย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลิน ว่า ถ้าหากยูเครนพยายามยึดพื้นที่ที่รัสเซียประกาศผนวกคืน การทำเช่นนั้นจะถือเป็นการโจมตีรัสเซียจริงหรือ และได้คำตอบว่า “ก็จะไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นไปได้”

นอกจากนั้น ปธน.ปูติน ยังเอ่ยปากด้วยว่า ตนพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้อง “บูรณภาพแห่งดินแดน” ของรัสเซียด้วย

แต่แม้รัสเซียจะเดินหน้าประกาศการผนวกอาณาเขตในวันศุกร์ กองทหารยูเครนยังคงทำการปิดล้อมทหารรัสเซียจำนวนหลายร้อยคนที่ป้อมทหารหลักแห่งหนึ่งในเขตปกครองดอแนตสก์

เดนิส พูชิลิน ผู้นำในดอแนตสก์ซึ่งสนับสนุนรัสเซียยอมรับว่า กองกำลังของตนเสียพื้นที่ 2 หมู่บ้านในเมืองลีแมนให้กับกองกำลังกรุงเคียฟแล้ว ทำให้ป้อมทหารในบริเวณนั้นถูก “โอบล้อมไปครึ่งหนึ่ง”

กองทัพยูเครนยืนยันด้วยว่า ปฏิบัติการโอบล้อมทหารรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวเดินหน้าไปด้วยดี แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ จนกว่า สถานการณ์จะนิ่ง

ทั้งนี้ การพ่ายแพ้ของฝ่ายรัสเซียในจุดนี้น่าจะเป็นโอกาสให้ฝ่ายยูเครนยึดพื้นที่บางส่วนที่มอสโกประกาศผนวกเข้ากับตนกลับคืนมาได้

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า มีการยิงขีปนาวุธเข้าใส่ขบวนรถของพลเรือนที่เตรียมข้ามจากพื้นที่ที่ยูเครนปกครองในซาปอริห์เชีย ในวันศุกร์ โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 28 คน ใกล้ ๆ กับ ซาปอริห์เชีย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนและบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 12 คนในเมืองมิโคลาอิฟด้วย

ขบวนรถดังที่ถูกยิงโจมตีนั้น ประกอบไปด้วยรถของประชาชนที่พยายามเดินทางไปช่วยสมาชิกในครอบครัวของตนที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ที่ฝ่ายรัสเซียยึดครองอยู่

ปธน.เซเลนสกี โพสต์ข้อความลงในแอปพลิเคชั่น เทเลแกรม (Telegram) ว่า รัสเซียกำลังคลั่งที่จะ “ทำการแก้แค้นต่อความแน่วแน่ของเรา และต่อความล้มเหลวของตัวเอง” และว่า “สถุลกระหายเลือด ... พวกเอ็งต้องชดใช้อย่างแน่นอน สำหรับทุกชีวิตของชาวยูเครนที่สูญเสียไป”

และสืบเนื่องจากผลกระทบของการประกาศระดมกำลังพลรบของปธน.ปูติน ที่ทำให้ชายหนุ่มชาวรัสเซียแห่กันเดินทางออกนอกประเทศกันมากมายมาย ล่าสุด ฟินแลนด์ ซึ่งมีชายแดนติดกับรัสเซีย กลายมาเป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศปิดพรมแดนของตนแล้ว

  • ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์