ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศการผนวกพื้นที่ใน 4 เขตปกครองของยูเครนเข้ากับรัสเซีย แม้ว่ากองกำลังของรัฐบาลมอสโกอาจจะประสบความปราชัยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานประเทศเพื่อนบ้านของตนในเร็ว ๆ นี้แล้วก็ตาม
ปธน.ปูติน ประกาศในระหว่างการทำพิธีผนวกดินแดนดังกล่าวที่ทำเนียบเครมลินในวันศุกร์ว่า “ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองลูอันสก์ ดอแนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริห์เชีย กำลังจะกลายมาเป็นเพื่อนร่วมชาติของเราตลอดไปแล้ว”
ในการนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ตอบโต้ออกมาด้วยคำประกาศว่า ตนกำลังยื่นใบสมัคร “แบบเร่งด่วน” เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรทางทหารนาโต้แล้ว
ทำเนียบขาวประณามการยึดแผ่นดินของรัสเซียเช่นกัน โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์เรียกการผนวกแผ่นดินนี้ว่าเป็นเรื่องหลอกลวง และระบุว่า
“รัสเซียกำลังละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และทำการเหยียบย่ำกฎบัตรสหประชาชาติ และแสดงให้เห็นถึงการที่รัสเซียไม่เคารพต่อชาติใด ๆ ที่สนับสนุนสันติภาพด้วย”
ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐฯ และพันธมิตรทั้งหลายจะดำเนิน “มาตการลงโทษรุนแรงและมีผลอย่างรวดเร็วต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซียอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งต่อสมาชิกในครอบครัวของคนเหล่านี้ เจ้าหน้าที่ทางทหารของรัสเซียและเบลารุส และเครือข่ายการจัดซื้อาวุธทั้งหลาย ซึ่งรวมถึงซัพพลายเออร์อาวุธจากชาติอื่น ๆ ที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและกิจการทางทหารของรัสเซียด้วย”
SEE ALSO: มอสโกอ้าง ชาวยูเครนในพื้นที่ยึดครอง ‘สนับสนุนการผนวกเข้ากับรัสเซีย’
ก่อนหน้านี้ รัสเซียอ้างว่า ผลการทำประชามติในพื้นที่ 4 จุดของยูเครนซึ่งกองกำลังรัสเซียยึดครองไว้อยู่ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับรัสเซีย โดยขนาดของพื้นที่ทั้งหมดนี้คิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของพื้นที่รวมของยูเครน
ยูเครนระบุว่า การทำประชามตินี้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและดำเนินการภายใต้การบังคับยึดครอง
ก่อนการประกาศผนวกอาณาเขตในวันศุกร์ ทำเนียบเครมลินได้ออกมาประกาศแล้วว่า การรุกรานเข้าไปในพื้นที่ที่ได้รับการผนวกแล้วนั้นจะถือเป็นการโจมตีต่อรัสเซีย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกเครมลิน ว่า ถ้าหากยูเครนพยายามยึดพื้นที่ที่รัสเซียประกาศผนวกคืน การทำเช่นนั้นจะถือเป็นการโจมตีรัสเซียจริงหรือ และได้คำตอบว่า “ก็จะไม่สามารถมองเป็นอย่างอื่นไปได้”
นอกจากนั้น ปธน.ปูติน ยังเอ่ยปากด้วยว่า ตนพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้อง “บูรณภาพแห่งดินแดน” ของรัสเซียด้วย
แต่แม้รัสเซียจะเดินหน้าประกาศการผนวกอาณาเขตในวันศุกร์ กองทหารยูเครนยังคงทำการปิดล้อมทหารรัสเซียจำนวนหลายร้อยคนที่ป้อมทหารหลักแห่งหนึ่งในเขตปกครองดอแนตสก์
เดนิส พูชิลิน ผู้นำในดอแนตสก์ซึ่งสนับสนุนรัสเซียยอมรับว่า กองกำลังของตนเสียพื้นที่ 2 หมู่บ้านในเมืองลีแมนให้กับกองกำลังกรุงเคียฟแล้ว ทำให้ป้อมทหารในบริเวณนั้นถูก “โอบล้อมไปครึ่งหนึ่ง”
กองทัพยูเครนยืนยันด้วยว่า ปฏิบัติการโอบล้อมทหารรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวเดินหน้าไปด้วยดี แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ จนกว่า สถานการณ์จะนิ่ง
ทั้งนี้ การพ่ายแพ้ของฝ่ายรัสเซียในจุดนี้น่าจะเป็นโอกาสให้ฝ่ายยูเครนยึดพื้นที่บางส่วนที่มอสโกประกาศผนวกเข้ากับตนกลับคืนมาได้
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า มีการยิงขีปนาวุธเข้าใส่ขบวนรถของพลเรือนที่เตรียมข้ามจากพื้นที่ที่ยูเครนปกครองในซาปอริห์เชีย ในวันศุกร์ โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 28 คน ใกล้ ๆ กับ ซาปอริห์เชีย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คนและบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 12 คนในเมืองมิโคลาอิฟด้วย
ขบวนรถดังที่ถูกยิงโจมตีนั้น ประกอบไปด้วยรถของประชาชนที่พยายามเดินทางไปช่วยสมาชิกในครอบครัวของตนที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ที่ฝ่ายรัสเซียยึดครองอยู่
ปธน.เซเลนสกี โพสต์ข้อความลงในแอปพลิเคชั่น เทเลแกรม (Telegram) ว่า รัสเซียกำลังคลั่งที่จะ “ทำการแก้แค้นต่อความแน่วแน่ของเรา และต่อความล้มเหลวของตัวเอง” และว่า “สถุลกระหายเลือด ... พวกเอ็งต้องชดใช้อย่างแน่นอน สำหรับทุกชีวิตของชาวยูเครนที่สูญเสียไป”
และสืบเนื่องจากผลกระทบของการประกาศระดมกำลังพลรบของปธน.ปูติน ที่ทำให้ชายหนุ่มชาวรัสเซียแห่กันเดินทางออกนอกประเทศกันมากมายมาย ล่าสุด ฟินแลนด์ ซึ่งมีชายแดนติดกับรัสเซีย กลายมาเป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศปิดพรมแดนของตนแล้ว
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์