รัสเซียระดมโจมตีใส่โกดังธัญพืชสำหรับส่งออกของยูเครนเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน และฝึกซ้อมการยึดเรือสินค้าในทะเลดำ ขณะที่ยูเครนประกาศว่าจะต่อต้านการปิดกั้นเส้นทางการส่งออกธัญพืช ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจนหวั่นวิตกว่าอาจเกิดวิกฤตอาหารโลกขึ้นอีกครั้ง
การโจมตีของรัสเซียต่อระบบการขนส่งธัญพืชของยูเครนมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลรัสเซียประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงขนส่งธัญพืชผ่านทะเลดำที่รัสเซียและยูเครนร่วมจัดทำเมื่อหลายเดือนก่อนโดยมีสหประชาชาติเป็นตัวกลาง
โอเลห์ ไคเปอร์ ผู้ว่าการเขตปกครองโอเดสซา ระบุในสื่อเทเลแกรมว่า "อาคารขนส่งธัญพืชในโอเดสซาถูกรัสเซียโจมตี ศัตรูสามารถทำลายธัญพืชมากกว่า 100 ตัน และข้าวบาร์เลย์ 20 ตัน"
ภาพข่าวแสดงให้เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากอาคารโครงสร้างเหล็กที่เชื่อว่าเป็นโกดังเก็บธัญพืช มีรายงานผู้บาดเจ็บสองคน และมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อยเจ็ดคนจากการโจมตีทั่วยูเครนในวันศุกร์
FILE - A bulk grain cargo ship is anchored in the Black Sea near the entrance of the Bosphorus Strait in Istanbul, Turkey, July 17, 2023.
รัฐบาลรัสเซียระบุว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้คือการตอบโต้ที่ยูเครนทำลายสะพานไครเมียที่เชื่อมระหว่างรัสเซียกับแคว้นไครเมียที่รัสเซียยึดครองไปเมื่อปี 2014 พร้อมกล่าวหายูเครนว่าใช้เส้นทางขนส่งสินค้าในทะเลดำเป็นจุดโจมตีเพื่อก่อการร้าย
รัฐบาลกรุงมอสโกเปิดเผยด้วยว่า กองเรือในทะเลดำกำลังมีการฝึกซ้อมยิงจรวดใส่เป้าหมายกลางทะเล พร้อมกับขู่ว่าเรือทุกลำที่มุ่งหน้าไปทางยูเครนจะถูกรัสเซียหมายหัวว่าเป็นเรือติดอาวุธ ขณะที่ยูเครนมีคำเตือนถึงเรือที่จะเดินทางไปรัสเซียเช่นกัน
การโจมตีของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านการส่งออกธัญพืชของยูเครน และความกังวลต่อการขนส่งธัญพืช ทำให้ราคาสินค้าข้าวสาลีในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นในระดับที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่สงครามในยูคเรนเริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
A worker cleans grain after trucks unloaded in a grain elevator in Melitopol, south Ukraine, Thursday, July 14, 2022.
คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติมีกำหนดพบหารือกันเรื่องที่รัสเซียถอนตัวออกจากข้อตกลงธัญพืชซึ่งอาจทำให้เกิดวิกฤตด้านอาหารโลกขึ้นอีกครั้ง โดยรัสเซียยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมในข้อตกลงดังกล่าวอีกหากไม่มีเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิมสำหรับรัสเซีย
ด้านประธานาธิบดีตุรกี เรจิป เทยิป เออร์โดวาน ซึ่งเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้เกิดข้อตกลงนี้ กล่าวว่าจะมีการหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อหาทางออกเรื่องนี้ พร้อมเตือนว่าหากข้อตกลงฉบับนี้พังลงจริง ๆ จะทำให้ราคาสินค้าอาหารโลกพุ่งสูงขึ้นและส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประเทศยากจน และจะทำให้เกิดการอพยพย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ตามมาด้วย