Your browser doesn’t support HTML5
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จะปกครองรัสเซียไปอีกอย่างน้อย 6 ปี หลังจากการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียในวันอาทิตย์ แสดงให้เห็นว่า ปธน.ปูติน ได้คะแนนเสียงไปประมาณ 74.8% เมื่อนับบัตรลงคะแนนไปแล้วราว 40% ตามรายงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัสเซีย
โดยคู่แข่งที่มีคะแนนตามมาเป็นอันดับสอง คือ นายพาเวล กรูดินิน (Pavel Grudinin) ซึ่งได้คะแนนตามมาห่างๆ ที่ 15.9%
ก่อนหน้านี้ คู่แข่งคนสำคัญของ ปธน.ปูติน คือนายบอริส นาวาลนี (Boris Navalny) ถูกตัดสิทธิ์จากการลงเลือกตั้ง หลังจากศาลตัดสินว่าเขามีความผิดในข้อหาทุจริต ซึ่งนายนาวาลนีบอกว่า เป็นการจัดฉากมาเพื่อกันเขาออกจากการเลือกตั้งครั้งนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า เหตุการณ์ลอบสังหารอดีตสายลับชาวรัสเซียด้วยสารพิษ ในประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งทางการอังกฤษเชื่อว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังนั้น คือสัญญาณแสดงให้เห็นว่ารัสเซียพร้อมแล้วสำหรับการเผชิญหน้ากับชาติตะวันตก และยิ่งเป็นการปลุกกระแสชาตินิยมในรัสเซีย ซึ่งมีผลให้คะแนนเสียงของ ปธน.ปูติน เพิ่มขึ้นอย่างมากในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่ามีชาวรัสเซียหลายคนที่ไม่เชื่อว่าทางการรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ก็ตาม
ผู้สื่อข่าวของวีโอเอที่ไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งในกรุงมอสโก รายงานว่า ทางการรัสเซียประกาศว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอาทิตย์ราว 70% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลกรุงมอสโกตั้งไว้ โดยเชื่อว่าการที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์จำนวนมากจะเป็นเครื่องยืนยันถึงความชอบธรรมและความนิยมในตัวประธานาธิบดีปูติน
ปธน. วลาดิเมียร์ ปูติน ขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี ค.ศ. 1999 และหลังจากดำรงตำแหน่งสองเทอม เขาได้สลับไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะกลับขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายของรัสเซียที่ระบุไว้ว่า ประธานาธิบดีสามารถอยู่ในตำแหน่งได้เพียงสองสมัยติดต่อกัน
ในช่วงแรกๆ ของการดำรงตำแหน่ง ปธน.ปูติน สร้างฐานความนิยมในหมู่ประชาชน ด้วยการผลักดันอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียให้ขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ซึ่งช่วยฉุดเศรษฐกิจรัสเซียให้พ้นจากวิกฤตการณ์การเงินที่กินเวลานับสิบปี
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจรัสเซียเริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันโลกตกต่ำ ประกอบกับมาตรการลงโทษจากชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย ถึงกระนั้น ดูเหมือนชาวรัสเซียส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่า ปธน.ปูติน คือ “คนที่ใช่” ในการนำพาเศรษฐกิจรัสเซียให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง และมีจำนวนมากซึ่งกังวลว่า รัสเซียที่ไม่มีผู้นำชื่อ “ปูติน” จะย่ำแย่ลงกว่าเดิม
คุณกาลิอายา (Galiaya) หนึ่งในผู้ออกเสียงเลือกตั้ง กล่าวกับวีโอเอว่า เธอเลือก ปธน.ปูติน เพราะเหตุผลด้านความมั่นคง เธอไม่ต้องการให้เกิดปัญหาความไร้เสถียรภาพของรัฐบาล ความวุ่นวายในประเทศ หรือแม้แต่สงคราม ซึ่งเธอเชื่อว่าการที่ ปธน.ปูติน อยู่ในตำแหน่งนั้น ปัญหาต่างๆ ที่เธอกลัวจะไม่เกิดขึ้น
ก่อนการเลือกตั้ง ปธน.ปูติน ได้ปราศรัยเน้นย้ำถึงอิทธิพลของรัสเซียที่กำลังกลับมาบนเวทีโลก และว่าเวลานี้ ทั่วโลกจะต้องรับฟังไม่ว่ารัสเซียพูดอะไร แม้จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม คำถามที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ หลังจากครบวาระในอีก 6 ปีข้างหน้าแล้ว ปธน.ปูติน ยังจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปด้วยการปรับเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ? หรือจะมีคนอื่นที่ก้าวขึ้นมาแทน? ซึ่งหากเป็นกรณีหลัง นักวิเคราะห์เชื่อว่าอาจจะเกิดภาวะชะงักงันทางการเมืองในรัสเซีย เมื่อขั้วอำนาจต่างๆ แข่งขันกันเพื่อให้ได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากปูติน
(ผู้สื่อข่าว Jamie Dettmer รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)