กองกำลังนิวเคลียร์รัสเซียเริ่มซ้อมรบจำลองตอบโต้ภัยคุกคาม

แฟ้มภาพ - รัสเซียทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งข้ามทวีประหว่างการซ้อมรบของกองกำลังนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2022

ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเริ่มการซ้อมรบครั้งใหญ่ของกองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียในวันอังคาร โดยมีการจำลองการยิงขีปนาวุธสำหรับการโจมตีตอบโต้ เพื่อแสดงถึงศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของประเทศท่ามกลางความตึงเครียดกับชาติตะวันตก

ปูตินกล่าวต่อบรรดาผู้นำทหารผ่านวิดีโอ ระบุว่า การซ้อมรบครั้งนี้จำลองภารกิจและการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงการใช้ขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ เป้าหมายเพื่อฝึกฝนกองกำลังเชิงยุทธศาสตร์ในเหตุการณ์โจมตีด้วยนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้อาวุธนิวเคลียร์ของศัตรู

อาวุธนิวเคลียร์ที่ถูกนำมาทดสอบในครั้งนี้ รวมถึงขีปนาวุธวิถีโค้งข้ามทวีป ยาร์ส (Yars) เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ โนโวมอสคอฟส์ก (Novomoskovsk) และ คเอนยาซ โอเลก (Knyaz Oleg) รวมทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95 ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้

ปธน.ปูติน กล่าวย้ำเมื่อวันอังคารว่า คลังอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียยังคงเป็น "สิ่งรับประกันอำนาจอธิปไตยและความมั่นคงเหนือดินแดนรัสเซียที่ไว้ใจได้" และว่า "ภายใต้ความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมืองโลก ตลอดจนภัยคุกคามและความเสี่ยงใหม่ ๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องมีกองกำลังเชิงยุทธศาสตร์ที่ทันสมัยซึ่งพร้อมต่อสู้ตลอดเวลา"

ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเริ่มการซ้อมรบครั้งใหญ่ของกองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียในวันอังคาร 29 ต.ค. 2024

ปูตินยืนยันว่า รัสเซียจะเดินหน้าพัฒนากองกำลังนิวเคลียร์ต่อไปด้วยการจัดหาขีปนาวุธรุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถโจมตีได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และทำลายเกราะป้องกันขีปนาวุธของศัตรูได้ดีขึ้น

เมื่อเดือนที่แล้ว ปธน.รัสเซียเตือนสหรัฐฯ และพันธมิตรองค์การนาโต้ว่า การอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธโจมตีระยะไกลของชาติตะวันตกเพื่อโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียนั้นจะทำให้นาโต้กลายเป็นผู้ทำสงครามกับรัสเซีย

ปูตินเน้นย้ำถึงข้อความดังกล่าวด้วยการประกาศใช้หลักการใหม่ว่าด้วยนิวเคลียร์ คือการโจมตีใด ๆ ก็ตามโดยประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ จะถือเป็นการโจมตีร่วมกันต่อรัสเซียซึ่งรัสเซียสามารถใช้นิวเคลียร์ตอบโต้ได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงการถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนัก

โดยคำเตือนดังกล่าวของผู้นำรัสเซียมุ่งตรงไปยังสหรัฐฯ และรัฐบาลยูเครนเป็นหลัก

  • ที่มา: เอพี