ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวที่เวทีการประชุมด้านเศรษฐกิจ ที่เมืองวลาดิวอสตอก ในภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย ระบุว่า เวลานี้มีชาวรัสเซียราว 1,000 - 1,500 คนในแต่ละวัน ที่อาสาเข้าร่วมกับกองทัพรัสเซีย และช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ชาวรัสเซีย 270,000 คนได้ลงชื่อสมัครเพื่อเป็นทหารในกองทัพแล้ว
ผู้นำรัสเซีย เตือนว่า การที่ประเทศตะวันตกจัดส่งเครื่องบินรบไอพ่น เอฟ-16 ให้แก่ยูเครน จะทำให้สงครามครั้งนี้ยืดเยื้อออกไปเท่านั้น
ปูติน กล่าวด้วยว่า ปฏิบัติการโจมตีโต้กลับของกองทัพยูเครนที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนนั้น ประสบความล้มเหลว ซึ่งขัดกับรายงานข่าวจากทางการยูเครนที่ว่าทหารยูเครนสามารถยึดดินแดนและหมู่บ้านทางภาคตะวันออกและภาคใต้ที่ถูกรัสเซียยึดครองไป กลับคืนมาได้จำนวนมาก
ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ กล่าวว่า สหรัฐฯ ยังคงประเมินความคืบหน้าของปฏิบัติการโจมตีโต้กลับของกองทัพยูเครนอย่างต่อเนื่อง และพบว่ายูเครนสามารถยึดดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองไปในช่วงเร่ิมต้นของสงครามคืนมาได้แล้วราว 50%
โฆษกมิลเลอร์ชี้ว่า ปัจจัยหนึ่งที่บ่งชี้ถึงความยากลำบากของรัสเซียในสงครามครั้งนี้ คือการที่ปูตินต้องเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือ รวมถึงการขอความความสนับสนุนด้านการทหารจากผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ รายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังพิจารณาส่งขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธติดระเบิดลูกปรายให้แก่ยูเครน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างความเสียหายให้แก่รัสเซียได้มาก
รายงานระบุว่า ขีปนาวุธที่สหรัฐฯ เตรียมจัดส่งให้ยูเครนมีชื่อว่า Army Tactical Missile Systems (ATACMS) ที่สามารถโจมตีได้ไกล 306 กม. และ Guided Multiple Launch Rocket System (GMLRS) ติดระเบิดลูกปราย ซึ่งมีระยะทำการ 72 กม. และสามารถปล่อยระเบิดลูกปรายกระจายออกมาได้ถึง 404 ลูก อ้างอิงจากรายงานของรอยเตอร์
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี และรอยเตอร์