โป๊บ-ผู้นำศาสนาต่างๆ ร่วมยื่นข้อเสนอร้องขอความร่วมมือแก้ไขปัญหาโลกร้อน ก่อนการประชุม COP26

This photo taken and handout on October 4, 2021 by The Vatican Media shows Pope Francis (L) greeting Egyptian Islamic scholar and the current Grand Imam of al-Azhar mosque, Sheikh Ahmed Al-Tayeb upon his arrival for a private audience at The Vatican, with

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส พร้อมด้วยผู้นำศาสนาต่างๆ ร่วมกันยื่นข้อเสนอขอความร่วมมือจากทั่วโลกในการแก้ไขปัญหาภาวะสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ก่อนที่ผู้นำประเทศทั้งหลายจะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP26 ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

ผู้นำศาสนาทั้งหลาย ทั้งจากศาสนาคริสต์นิกายต่างๆ รวมทั้งศาสนาอิสลาม ศาสนายิว ศาสนาฮินดู ศาสนาซิกข์ ศาสนาพุทธ ลัทธิขงจื๊อ ลัทธิเต๋า ลัทธิโซโรอัสเตอร์ และศาสนาเชน เข้าร่วมการประชุมที่ชื่อ Faith and Science: Towards COP26 ในวันจันทร์ ซึ่งมีบทสรุปออกมาเป็นข้อเสนอให้แก่ผู้นำโลกที่จะเข้าร่วมประชุม COP26 ในนครกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน

สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงตรัสว่า การประชุม COP26 นั้น “เป็นตัวแทนของการเรียกประชุมด่วน เพื่อหาวิธีการรับมืออันมีประสิทธิภาพ ต่อวิกฤตของระบบนิเวศน์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และวิกฤตของค่านิยม ที่ทุกคนกำลังประสบอยู่ในเวลานี้ เพื่อที่จะเป็นความหวังให้กับชนรุ่นต่อๆ ไปในอนาคต”

รายงานข่าวเปิดเผยว่า คำร้องขอจากผู้นำศาสนาทั้งหลายในการประชุมนี้ ซึ่งระบุว่า ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงนั้นเป็น “ภัยคุกคามรุนแรง” ถูกส่งไปให้ ลุอิจิ ดิ มาอิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิตาลี และ อล็อค ชาร์มา ประธานการประชุมสมัชชา COP26 ที่นครกลาสโกว์ เรียบร้อยแล้ว

ชาร์มา กล่าวว่า ผู้นำศาสนาและลัทธิทั้งหลายที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ นับเป็นตัวแทนถึง 3 ใน 4 ของประชากรโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คำร้องขอนี้จึงมีน้ำหนักที่ทุกฝ่ายจะต้องรับฟังอย่างมาก

ทั้งนี้ คำร้องขอที่ได้มาจากการประชุมของผู้นำศาสนาและลัทธิทั้งหลาย เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกเริ่มดำเนินแผนงานต่างๆ ที่จะจำกัดการปรับขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับอุณหภูมิโลกก่อนยุคอุตสาหกรรม และเพื่อให้บรรลุเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้เกิดขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยระบุว่า ประเทศร่ำรวยทั้งหลายต้องเป็นผู้นำด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการสนับสนุนทางการเงินให้แก่ประเทศที่ยากจนกว่า สำหรับโครงการลดการปล่อยก๊าซนี้ด้วย