รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ประกาศแผนลงทุน 113 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาโครงการด้านเทคโนโลยี พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ในขณะที่จีนกำลังอัดฉีดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เข้าไปในภูมิภาคนี้
คำประกาศของรัฐมนตรีพอมเพโอถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามผลักดันยุทธศาสตร์ "อินโด-แปซิฟิก" ของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีเป้าหมายสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในปัจจุบัน
รัฐมนตรีพอมเพโอกล่าวต่อกลุ่มธุรกิจของหอการค้าสหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯ สนับสนุนการเปิดเสรีและอิสระของประเทศต่างๆ ในเอเชีย โดยไม่ถูกควบคุมโดยประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าหมายถึงจีน
"เงินทุนก้อนนี้เป็นเพียงเงินดาวน์สำหรับภาระผูกพันทางเศรษฐกิจยุคใหม่ของสหรัฐฯ ที่ม่ีต่อความรุ่งเรืองและสันติภาพในแถบอินโด-แปซิฟิก" รัฐมนตรีพอมเพโอกล่าว
โครงการลงทุนชุดใหม่ของสหรัฐฯ ดังกล่าว จะรวมถึงการลงทุน 25 ล้านดอลลาร์เพื่อขยายการส่งออกด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในเอเชีย และเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ สำหรับความช่วยเหลือในการพัฒนาและกักเก็บพลังงานต่างๆ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ด้วย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีพอมเพโอ กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อการลงุทนมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำในมองโกเลีย ตลอดจนโครงการด้านการคมนาคมขนส่งในศรีลังกา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าเงินลงทุนของสหรัฐฯ ดังกล่าว ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับเงินลงทุนของจีนในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งยิ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความแตกต่างของยุทธศาสตร์ของจีนกับสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีกำหนดเยือนมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ในสัปดาห์นี้