โพลล์ชี้ชาวอเมริกันเห็นตรงกัน การเผยแพร่ข้อมูลผิด ๆ กำลังเป็นปัญหา  

FILE - A person uses a smart phone in Chicago, Sept. 16, 2017.

สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ชาวอเมริกันเกือบทุกคนเห็นตรงกันว่าการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด ๆ เป็นปัญหาหนึ่งของสังคม

ผลการสำรวจโดย The Pearson Institute และ The Associated Press-NORC Center for Public Affairs Research พบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังคิดว่าบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามมีชาวอเมริกันเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่คิดว่าพวกเขาอาจจะมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อการแพร่กระจายของข้อมูลผิด ๆ ดังกล่าว

ร้อยละ 95 ของชาวอเมริกันที่ตอบแบบสอบถามระบุว่าการให้ข้อมูลผิด ๆ เป็นความท้าทายเมื่อพวกเขาพยายามเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวโทษรัฐบาลสหรัฐฯ สามในห้าของผู้ตอบแบบสอบถามโทษผู้ใช้โซเชียลมีเดียและบริษัทเทคโนโลยี แต่มีคนอเมริกันเพียงสองในสิบเท่านั้นที่บอกว่าพวกเขารู้สึกกังวลว่าพวกเขาเองอาจจะมีส่วนในการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด ๆ ในขณะที่มีประมาณร้อยละ 60 ที่มองว่าเพื่อนและคนในครอบครัวของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหานี้

Social media apps

คาร์เมน สเปลเลอร์ นักศึกษาระดับปริญญาโทวัย 33 ปีในเมืองเล็กซิงตัน รัฐเคนตักกี บอกว่ามีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเธอถกเรื่องการระบาดของโควิด-19 กับสมาชิกในครอบครัว สเปลเลอร์เชื่อมั่นในวัคซีนต้านโควิด ในขณะที่ครอบครัวของเธอไม่เชื่อ เธอคิดว่าครอบครัวของเธอได้รับข้อมูลผิด ๆ จากการดูทีวีหรืออ่านบทความจากเว็บไซต์ข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือ ทำให้พวกเขาตัดสินใจไม่ยอมรับวัคซีนต้านโควิด-19 บางคนยังมองว่าเธอบ้าไปแล้วที่เชื่อข้อมูลจากรัฐบาล ซึ่งเธอมองว่าความขัดแย้งในเรื่องนี้ ทำให้เกิดความตึงเครียดในกลุ่มครอบครัวและเพื่อนของเธอ

สเปลเลอร์ไม่ใช่คนเดียวเท่านั้นที่ต้องเจอกับปัญหานี้

จากการสำรวจพบว่าร้อยละ 79 ของผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน และ ร้อยละ 73 ของผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตกล่าวว่าบริษัทโซเชียลมีเดียมีส่วนรับผิดชอบอย่างมากต่อการแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งไม่บ่อยนักที่ผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองจะเห็นตรงกัน และความเห็นของสังคมในเรื่องนี้อาจจะสร้างความท้าทายให้กับเฟสบุ๊ค โซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดและทำกำไรมากที่สุด ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับการเพ่งเล็งจากสมาชิกสภาสหรัฐฯ จากทั้งสองพรรคเช่นกัน

AP Poll-Digital Privacy-Security

คอนสแตนติน โซนิน ศาสตราจารย์ด้านนโยบายสาธารณะแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก กล่าวว่า ผลโพลล์ของ AP-NORC นั้นเป็นข่าวร้ายสำหรับเฟสบุ๊ค เพราะเป็นที่ชัดเจนว่าการโจมตีเฟสบุ๊คนั้นเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ถึงแม้ว่าภายในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ สมาชิกสภาจะเห็นต่างกันก็ตาม

ในวันอังคารที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่าจะใช้กฎระเบียบใหม่เข้ามาควบคุมเฟสบุ๊คหลังจากที่อดีตพนักงานเฟสบุ๊คได้ขึ้นให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมาธิการของวุฒิสภาว่าการทำวิจัยของเฟสบุ๊คเองแสดงได้เห็นว่า อัลกอริทึมของบริษัทได้เพิ่มการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิด และเนื้อหาที่เป็นภัยต่อเด็กและเยาวชน

ส.ว.พรรคเดโมแครตและพรรครีพลับลิกัน เห็นตรงกันว่าจะต้องมีการใช้กฎระเบียบเพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเฟสบุ๊คในการเพิ่มเนื้อหาและการเจาะกลุ่มเป้าหมายของเฟสบุ๊ค

ผลการสำรวจความคิดเห็นยังระบุอีกว่า ชาวอเมริกันพร้อมที่จะกล่าวโทษทุกคน ยกเว้นตัวเอง ในการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด โดยมีมากกว่าครึ่งที่ตอบว่าพวกเขาไม่คิดว่าพวกเขามีส่วนในการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเหล่านั้น ในขณะที่ผู้ใหญ่วัยต้นจะกังวลมากกว่าว่าพวกเขามีส่วน โดยมีชาวอเมริกันที่มีอายุ 18-29 ปี ถึงร้อยละ 25 ที่บอกว่าพวกเขากังวลอย่างมากว่าพวกเขาได้เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเทียบกับร้อยละ 14 ของผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 60 ปี ทั้ง ๆ ที่งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ตอนปลายเป็นกลุ่มอายุที่มักจะแชร์ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือมากที่สุด