ลูกชายคนเดียวของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสมีลุ้นชนะเลือกตั้งรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

  • Simone Orendain

FILE - Philippines Vice Presidential candidate BongBong Marcos talks to supporters during an election campaign in the mountain resort of Baguio city in northern Philippines, April 16, 2016.

คนจำนวนไม่น้อยสามารถแยกแยะอดีตของครอบครัวกับความชื่นชอบในตัว “บองบอง” มาร์กอส

Your browser doesn’t support HTML5

Philippines Marcos

ในยุครุ่งเรืองของตระกูลมากอสแห่งฟิลิปปินส์ คนจำนวนมากยังคงจำได้ถึงการปกครองประเทศที่ยาวนานกว่า 20 ปีของประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส และชีวิตที่ฟู่ฟ่าของภริยา นางอิเมลด้า

ขณะนี้ลูกชายคนเดียวของครอบครัว เฟอร์ดินาน “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ กำลังเตรียมลงเลือกตั้งทั่วไปในตำแหน่งรองประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ วันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันจันทร์สัปดาห์หน้า

“บองบอง” มาร์กอส มีคะแนนคู่คี่ เลนี่ โลบรีโด้ ส.ส. หญิงจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมาจากพรรครัฐบาลปัจจุบัน

FILE - Philippines Vice-Presidential candidate BongBong Marcos whispers to his mother, former First Lady and Congresswoman Imelda Marcos, before BongBong announced his candidacy in Manila Philippines, October 10, 2015.

“บองบอง” วัย 58 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดของอังกฤษ เขาสั่งสมประสบการณ์การเมืองมา 20 ปี ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก

หากเขาชนะการเลือกตั้งรองประธานาธิบดีในวันจันทร์ โอกาสที่ในอนาคตเขาจะลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะมีมากขึ้น

คนฟิลิปปินส์ยังไม่ลืมความเสียหายทางเศรษฐกิจและปัญหาคอร์รัปชั่นจากครอบครัวมาร์กอส ในสมัยที่ประธานาธิบดีมาร์กอสปกครองประเทศแบบเผด็จการ ซึ่งในช่วงนั้นมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง

แต่คนจำนวนไม่น้อยสามารถแยกแยะอดีตของครอบครัวกับความชื่นชอบในตัว “บองบอง” มาร์กอส จูเนียร์ ได้

เดนิส พารีจา พนักงานบริษัทขนส่งทางเรือ กล่าวว่าตนเชื่อว่า “บองบอง” แตกต่างจากพ่อของเขา และจะไม่ทำผิดแบบเดียวกับอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส เธอเชื่อว่า “บองบอง” มาร์กอส ต้องการช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนในประเทศ และเชื่อว่านโยบายของเขาจะดีต่อแรงงานฟิลิปปินส์

ทั้งนี้การเลือกตั้งของฟิลิปปินส์แบ่งการลงคะแนนประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีอย่างชัดเจน ดังนั้นหลังการเลือกตั้ง ผู้นำอันดับหนึ่งและสองของประเทศไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคเดียวกัน

A woman stands among photos taken of human rights victims during martial law, displayed at an experiential museum inside a military camp in Manila on February 24, 2016, ahead of the 30th anniversary of people power that toppled dictator Ferdinand Marcos.

เมื่อ “บองบอง” มาร์กอส ถูกถามว่าครอบครัวของตนควรขอโทษต่อประชาชนเรื่องการใช้อำนาจในทางที่ผิดของพ่อของเขาหรือไม่ ทายาทตระกูลมาร์กอสผู้นี้กล่าวว่าตนจะไม่ขอโทษในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ

เฟอร์ดินาน มาร์กอส ถูกโค่นอำนาจหลังจาการลุกฮือของประชาชนที่นำโดยนางคอราซอน อะคิโน่ และต้องหนีไปอยู่ที่รัฐฮาวายจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อ 27 ปีก่อน

มีผู้ประเมินว่าครอบครัวมาร์กอสกอบโกยทรัพย์สินจากการคอร์รัปชั่นจนมีความมั่งคั่งระดับหมื่นล้านดอลลาร์

โดยหนึ่งในผู้วิจารณ์ “บองบอง” มาร์กอส คนสำคัญ คือประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เบนิกโน่ อะคิโน่ ลูกชายของนางคอราซอน อะคิโน่ นั่นเอง

สำหรับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอีกผู้หนึ่ง โรลี่ อัลวาเรส บอกว่าการเป็นลูกอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสไม่ได้เป็นข้อเสียสำหรับเธอ เธอกล่าวว่าเมื่อครั้งที่อดีตประธานาธิบดีมาร์กอสผู้พ่อใช้กฎอัยการศึกปกครองประเทศ ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่สวยงามสำหรับเธอ เพราะประชาชนคลายความกังวลเรื่องภัยอาชญากรรม

แต่ บอนิฟาซิโอ ฮิลากัน โฆษกของกลุ่มต่อต้านครอบครัวมาร์กอส Campaign Against the Return of the Marcoses to Malacanang กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ควรที่จะได้ผู้นำที่ดีกว่าคนโกหกและเก็บงำทรัพย์สินที่ขโมยมา รวมทั้งขาดสำนึกในการแยกแยะถูกผิด

อย่างไรก็ตาม “บองบอง” มาร์กอส ยังคงเดินหน้าหาเสียงด้วยการเรียกร้องให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในประเทศ ซึ่งต้องดูต่อไปว่าอนาคตทางการเมืองของทายาทตระกูลมาร์กอสจะสามารถไปได้ไกลถึงตำแหน่งผู้นำประเทศได้หรือไม่

และผลการเลือกตั้งรองประธานาธิบดีในวันจันทร์นี้ จะมีส่วนกำหนดเส้นทางต่อไปของเขาให้ชัดเจนขึ้นได้

(รายงานโดย Simone Orendain / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)