Your browser doesn’t support HTML5
การซ้อมรบร่วมกันระหว่างกองทัพสหรัฐฯ กับกองทัพฟิลิปปินส์ เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันจันทร์ ในบริเวณเดียวกับที่ฟิลิปปินส์เริ่มการซ้อมรบทางทะเลกับญี่ปุนเช่นกัน มีเรือรบ USS Fort Worth และเครื่องบินตรวจการณ์ P-3 Orion ของสหรัฐฯ เข้าร่วม เจ้าหน้าที่ระบุว่าการซ้อมรบครั้งนี้มีขึ้นในน่านน้ำฝั่งตะวันออกของฟิลิปปินส์ บริเวณเกาะ Palawan ไม่ไกลจากทะเลจีนใต้
ทางโฆษกกองทัพเรือฟิลิปปินส์ นาวาตรี Lued Lincuna แถลงว่า ขณะนี้ฟิลิปปินส์กำลังมีการฝึกซ้อมทางทะเลร่วมกับญี่ปุ่นในบริเวณดังกล่าวเช่นกัน แต่มุ่งเน้นไปที่กิจกรรมด้านความช่วยเหลือ กู้ภัยและการบรรเทาทุกข์มากกว่า
นาวาตรี Lincuna ระบุว่าเครื่องบินจากทั้งสามประเทศที่เข้าร่วมในการซ้อมรบครั้งนี้ รวมถึงเครื่องบินตรวจการณ์ P-3C Orion ของญี่ปุ่น จะบินอยู่เหนือน่านน้ำของฟิลิปปินส์ห่างจากชายฝั่ง 22 กม.
ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ Palawan ที่กำลังมีการซ้อมรบกันอยู่นี้ คือน่านน้ำติดกับทะเลจีนใต้ และห่างออกไปราว 300 กม.ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นที่ตั้งของหมู่เกาะ Spratly ศูนย์กลางข้อพิพาทครั้งล่าสุดระหว่างฟิลิปปินส์กับจีน ซึ่งก่อนหน้านี้มีภาพถ่ายดาวเทียมที่แสดงให้เห็นว่าจีนกำลังก่อสร้างโครงสร้างหลายอย่างคล้ายอาคารและทางขึ้นลงเครื่องบิน บนเกาะอย่างน้อย 7 แห่งในหมู่เกาะ Spratly ซึ่งฟิลิปปินส์กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ด้วยเช่นกัน
ทางเจ้าหน้าที่ทหารฟิลิปปินส์ยืนยันว่า การซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ในปีนี้เป็นไปตามกำหนดการประจำปีที่วางไว้ และไม่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทกับจีนในเรื่องหมู่เกาะ Spratly ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าการฝึกซ้อมร่วมกับญี่ปุ่น ถือว่ามีนัยสำคัญเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากญี่ปุ่นกำลังมีข้อพิพาทส่วนตัวกับจีนเรื่องหมู่เกาะแห่งหนึ่งในทะเลจีนตะวันออกเช่นกัน
เมื่อต้นเดือนนี้ ปธน.ฟิลิปปินส์ Benigno Aquino เดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ และบอกไว้ว่าทั้งสองประเทศจะเริ่มวางโครงร่างข้อตกลงความร่วมมือทางทหารอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มีทหารญี่ปุ่นหมุนเวียนประจำการในฟิลิปปินส์มากขึ้น ขณะที่ฟิลิปปินส์ก็จะส่งทหารไปเยือนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นด้วย
ด้านเลขาธิการพรรค New Patriotic Alliance Party ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ชูธงต่อต้านอเมริกัน ชี้ว่าในอดีตชาวฟิลิปปินส์ไม่พอใจที่กองทัพสหรัฐฯ เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศ แต่ตอนนี้ดูเหมือนประชาชนยังต้องกังวลกับกองทัพญี่ปุ่นอีกประเทศหนึ่งด้วย
นาย Renato Reyes จากพรรค New Patriotic Alliance Party ชี้แจงความกังวลว่าญี่ปุ่นอาจจะมีแผนขยายอิทธิพลทางทหารมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีจากนี้ และฟิลิปปินส์ไม่อยากกลายเป็นที่วางเท้าให้ประเทศอื่นเหยียบย่ำขึ้นไป ไม่ว่าจะนโยบายแทรกแซงประเทศอื่นของสหรัฐฯ หรือนโยบายขยายอำนาจทางทหารของญี่ปุ่นก็ตาม
ผู้สื่อข่าว Simone Orendain รายงานจากกรุงมะนิลา / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง