วีโอเอไทยคุยกับนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาชน ในวันที่สามของการย้ายจากพรรคก้าวไกล ที่บอกว่าได้รับแรงสนับสนุนอย่างเหนือความคาดหมาย และสะท้อนเจตจำนงทางการเมืองและความไว้วางใจจากประชาชน
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของพรรคประชาชนในวันที่ 12 สิงหาคม ตามเวลาในประเทศไทย ระบุว่ามีผู้สมัครเป็นสมาชิกของพรรคแล้วมากกว่า 46,000 คน และมียอดบริจาคแล้วมากกว่า 23 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่พรรคสามารถใช้เพื่อดำเนินงานได้กว่าสามเดือน
พริษฐ์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 143 ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่ย้ายมาพรรคประชาชน ระบุว่าจำนวนผู้สมัครสมาชิกและเงินบริจาค สะท้อนทั้งความเห็นที่ว่า การยุบพรรคในลักษณะนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ไปจนถึงความต้องการที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงตามที่พรรคก้าวไกลนำเสนอ และมีหลายคนที่เป็นฐานการเมืองหน้าใหม่
“หลายคนสะท้อนกลับมาว่า ไม่เคยสมัครสมาชิกพรรคการเมืองที่ไหนมาก่อนเลย แน่นอนอาจจะมีคนเคยลงคะแนนเสียงเลือกตั้งพรรคก้าวไกลครั้งล่าสุด แต่ถึงขั้นสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หลายคนก็สารภาพว่าไม่เคยสมัครสมาชิกพรรคการเมืองมาก่อนเลย ผมก็คิดว่าจำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามา หรือให้การบริจาคเข้ามา ก็คงมีหลากหลายที่มา
“ผมคิดว่าจำนวนคนที่สมัครสมาชิกเข้ามา หรือให้การบริจาคเข้ามาก็คงมีหลายที่มา อาจจะมีบางคนที่อาจจะสนับสนุนมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ มาถึงพรรคก้าวไกล มาถึงพรรคประชาชน แต่ก็จะมีบางคนที่อาจจะตัดสินใจเข้ามาให้การสนับสนุนพรรคประชาชนโดยที่แม้กระทั่งปีที่แล้วอาจจะยังไม่ได้ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกลด้วยซ้ำ” พริษฐ์กล่าว
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าข้อเสนอแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 (ม.112) ของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง จึงมีคำสั่งให้ยุบพรรคและตัดสิทธิ์การลงรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี
คำวินิจฉัยดังกล่าวมีผลให้สถานภาพทางการเมืองของพรรคก้าวไกลสิ้นสุดลง ส่วนกรรมการบริหารพรรคที่มีสถานภาพเป็น ส.ส. ก็มีอันต้องสิ้นสุดสถานภาพในฐานะสมาชิกรัฐสภาด้วย
ในวันที่ถูกยุบพรรค พรรคก้าวไกลมีจำนวนสมาชิกที่ 115,492 คน
พริษฐ์กล่าวกับวีโอเอไทยว่า ภารกิจแรกของพรรคประชาชนในการประชุมรัฐสภา คือการสืบต่อบทบาทเดิมของพรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ฝ่ายค้านเชิงรุก” ที่ไม่เพียงตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แต่จะผลักดันวาระที่สำคัญของประเทศผ่านกลไกต่าง ๆ เช่น การเสนอกฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎร
“เรื่องของความแตกต่างระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคประชาชน อาจจะต่างในเชิงของชื่อ ในเชิงของนิติบุคคล ในเชิงขององค์กร แต่ในเชิงของอุดมการณ์ แนวนโยบายและการทำงานก็ถือว่าต่อเนื่องมาจากพรรคก้าวไกล แม้เราอาจจะสูญเสียบุคลากรทรงคุณค่าหลายคนที่ถูกตัดสิทธิ์ไปด้วยในฐานะกรรมการบริหารของพรรคก้าวไกล” พริษฐ์กล่าว
การประชุมสภาครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ ซึ่งมีกฎหมายจำนวนหนึ่งที่เป็นการเสนอจาก ส.ส. พรรคก้าวไกลเดิมเพื่อรอการพิจารณา เช่น ร่างกฎหมายลดเงื่อนไขการผลิตสุราเพื่อการค้าของผู้ผลิตรายย่อย กฎหมายจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม และร่างกฎหมายนิรโทษกรรมผู้มีความผิดจากเหตุขัดแย้งทางการเมือง ที่เข้าชื่อเสนอตั้งแต่ปี 2566
หลังคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า ให้กำลังใจพรรคก้าวไกลในการทำงานต่อ และเชื่อว่าการทำกิจกรรมหลังยุบพรรค ไม่ใช่การปลุกระดม ตามการรายงานของเว็บไซต์รัฐบาลไทย
ในวันที่ 14 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย กรณีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวหาว่านายเศรษฐาขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ สืบเนื่องจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ทนายความที่เคยต้องโทษจำคุก ขึ้นมาเป็นสมาชิกในคณะรัฐมนตรี
ต่อคำวินิจฉัยที่จะมีในวันพฤหัสบดีนี้ นายกฯ ของไทยกล่าวว่าได้ส่งคำชี้แจงแถลงปิดคดีไปแล้ว จึงไม่อยากพูดอะไร เพราะเคารพศาล แต่ก็ยอมรับว่ามีความกังวล