การประกาศถอนตัวจากการเลือกตั้งของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งแรงกระเพื่อมไปถึงตัวละครทางการเมืองสหรัฐฯ และเรียกปฏิกิริยาได้จากทั้งประชาชนและนักวิเคราะห์ ถึงหนทางที่จะดำเนินต่อไปนับจากนี้
“และถึงแม้ว่าจะเป็นความตั้งใจของผมที่จะลงเลือกตั้งอีกสมัย แต่ผมก็เชื่อว่า หากผมถอนตัวและมุ่งให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่ประธานาธิบดีให้ครบวาระจะเป็นประโยชน์ต่อพรรค (เดโมแครต) และประเทศชาติ”
ข้างต้นคือส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากจดหมาย ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ประกาศยืนยันการตัดสินใจสละสิทธิ์การเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปลายปีนี้
คำประกาศได้สร้างปฏิกิริยาและคำถามในหมู่ประชาชนและนักวิเคราะห์ ถึงทิศทางของพรรคเดโมแครตนับจากนี้ ที่เหลือเวลาเพียงไม่ถึงสี่เดือน ก็จะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
แมเดลีน มิลส์ จากมหานครนิวยอร์ก กล่าวว่า เธอไม่แปลกใจที่ไบเดนสละสิทธิ์ และหวังว่าพรรคเดโมแครตน่าจะมาถึงบทสรุปนี้ได้เร็วกว่านี้ เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญภาวะชุลมุนวุ่นวายแบบที่เป็นอยู่
“แต่ฉันคิดว่าถ้าไบเดนยังเป็นแคนดิเดตอยู่ อย่างไรเขาก็คงแพ้ทรัมป์ ดังนั้นฉันคิดว่าการเล่นลูกเสี่ยงที่ล่าช้าตอนนี้ ดีกว่าการยึดติดกับไบเดนเยอะ” มิลส์กล่าว
เจฟฟ์ คิฟเฟอร์ กล่าวว่า การที่ไบเดนลาออก เป็นการตัดสินใจที่ดี
คิฟเฟอร์กล่าวว่า “ผมโหวตให้ไบเดน และดูจากสภาพที่เป็นตอนนี้ เขาเป็นผู้นำจากเดโมแครตที่ดีและทำงานได้ดี พวกเขาผ่านกฎหมายใหญ่ ๆ สองสามชิ้นทั้งที่เจอการคัดค้านจากรีพับลิกัน แต่ข้อเท็จจริงก็คือ เขาแก่เกินไป ผมคิดว่าคนอเมริกันจำนวนมากก็รู้”
การสละสิทธิ์ของไบเดน นำมาซึ่งคำถามว่า ใครจะขึ้นมาเป็นผู้แทนจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้ง โดยในปัจจุบัน ความสนใจตกไปอยู่ที่คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และคู่หูของไบเดนในการลงเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งจากไบเดน และผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทนภายในพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ตาม ในทรรศนะของแกรี ชมิทท์ ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มวิจัยนโยบาย สถาบัน American Enterprise Institute มองว่าความท้าทายของพรรคเดโมแครต ไม่ได้จบลงที่ไบเดนตัดสินใจไม่ไปต่อ แต่กลับอยู่ที่สนามแข่งขันจริง โดยเฉพาะในพื้นที่รัฐที่ต้องช่วงชิงชัยชนะจากฝั่งตรงข้ามมาให้ได้
ชมิทท์กล่าวว่า “คำถามที่แท้จริงก็คือ คามาลา แฮร์ริส ที่เป็นเดโมแครตสายเสรีนิยมจากแคลิฟอร์เนีย จะมีพละกำลังทางการเลือกตั้งในพื้นที่อย่างรัฐมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซินหรือไม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เดโมแครตต้องเอาชนะ เพื่อรักษาตำแหน่งประธานาธิบดี”
ปีเตอร์ โลจ รองศาสตราจารย์ด้านสื่อและกิจการสาธารณะ มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวว่า รอง ปธน.แฮร์ริสจะต้องเจอความท้าทาย ในช่วงเวลาที่เหลือราวสี่เดือน ก่อนถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้นำสูงสุด
“ส่วนหนึ่งของโพลที่เราเห็นตอนนี้เกี่ยวกับรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ก็คือเธอไม่ได้ชื่อ”โจ ไบเดน เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักเธอ”
“เธอได้รับเลือกตั้งสองครั้งในแคลิฟอร์เนีย เธอฉลาดมาก เธอเป็นอัยการ เธอลงเลือกตั้งระดับชาติกับไบเดนในตำแหน่งรองประธานาธิบดี เธอรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เดโมแครตในวงกว้างรู้จักเธอ แต่เธอ ไม่มีชื่อเสียงในระดับชาติ (ซึ่ง) ชัดเจนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ และไบเดนมีสิ่งนั้น”
ในโพสต์บัญชีสื่อโซเชียลมีเดีย X ของแฮร์ริส เธอระบุว่า จะทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างเอกภาพในพรรคเดโมแครตในการเอาชนะทรัมป์
ดักลาส แมคเคบ จากรัฐฟลอริดา กล่าวกับ วีโอเอ ไทย ขณะเดินทางมาท่องเที่ยวบริเวณทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน / เขามองว่าการตัดสินใจของไบเดนนั้นถูกต้องแล้ว หากประเมินจากความชราของเขา และมองว่ายังต้องดูกันต่อไปว่าใครจะมาเป็นตัวแทนจากพรรคเดโมแครต
และถึงแม้คามาลา แฮร์ริส จะเป็นตัวเต็ง แต่ส่วนตัวเขามองว่ามิเชล โอบามา น่าจะเหมาะสมกว่า ในแง่ที่มีประสบการณ์ในทำเนียบขาวมา 8 ปี ในฐานะสตรีหมายเลขหนึ่งของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา
อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งชี้ใด ๆ จากตัวมิเชล ในการเป็นตัวแทนคนใหม่ของพรรคเดโมแครต