ราคาน้ำมันดิบโลกลดลงอีกครั้งในวันพุธเป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบียประกาศว่า สามารถชดเชยปริมาณการผลิตน้ำมันราวครึ่งหนึ่งที่สูญเสียไปจากการโจมตีของโดรนที่แหล่งน้ำมันสำคัญสองแห่งได้แล้ว
โดยราคาน้ำมันดิบยูเอส เบนช์มาร์ค ลดลง 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลงมาอยู่ที่ $58.29 ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลงมาอยู่ที่ $63.70 ต่อบาร์เรล
ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้นไปกว่า 14% เมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในหนึ่งวันนับตั้งแต่เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียในปี ค.ศ. 1991 หลังการโจมตีที่โรงงานผลิตน้ำมันดิบของบริษัท Aramco ของรัฐบาลซาอุฯ ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของซาอุฯ ลดลงราวครึ่งหนึ่ง คือประมาณ 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนราว 6% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบโลก
ขณะเดียวกัน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่ายังไม่พิจารณาปล่อยน้ำมันดิบสำรองฉุกเฉินเข้าสู่ตลาดโลก เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำมันสำรองในตลาดโลกเพียงพอชดเชยส่วนที่หายไปของซาอุฯ
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่าความตึงเครียดรอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
สหรัฐฯ กล่าาวหาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันของซาอุฯ เมื่อวันเสาร์ แม้ว่ากลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนได้ออกมาแสดงตัวว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้ก็ตาม