ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่ง 12% หลังเหตุโจมตีแหล่งน้ำมันซาอุฯ


FILE PHOTO: A production facility is seen at Saudi Aramco's Shaybah oilfield in the Empty Quarter, Saudi Arabia, May 22, 2018. REUTERS/Ahmed Jadallah/File Photo
FILE PHOTO: A production facility is seen at Saudi Aramco's Shaybah oilfield in the Empty Quarter, Saudi Arabia, May 22, 2018. REUTERS/Ahmed Jadallah/File Photo
please wait

No media source currently available

0:00 0:05:29 0:00

ราคาน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้น 12% ในวันจันทร์ หลังเกิดเหตุการณ์โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียหลายแห่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของซาอุฯ ลดลงราวครึ่งหนึ่ง และยิ่งทำให้เกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบประเภทเบรนท์ เพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คือ 19.5% ไปอยู่ที่ระดับ $71.95 ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นภายในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 1991 ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย

การโจมตีด้วยจรวดที่ถูกยิงมาจากโดรน เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ทำลายแหล่งผลิตน้ำมันสองแห่งของบริษัท Saudi Aramco ของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุฯ ลดลงราว 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือเกือบ 6% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก

Saudi Arabia, A satellite image showing damage to oil/gas Saudi Aramco infrastructure at Khurais
Saudi Arabia, A satellite image showing damage to oil/gas Saudi Aramco infrastructure at Khurais

กลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนได้ออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีด้วยโดรนในครั้งนี้ เพื่อตอบโต้ที่ซาอุฯ โจมตีใส่กลุ่มฮูตีในเยเมนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่รัฐบาลซาอุฯ จะสามารถผลิตน้ำมันชดเชยปริมาณที่หายไปได้ แต่นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน

Smoke is seen following a fire at Aramco facility in the eastern city of Abqaiq, Saudi Arabia, Sept. 14, 2019.
Smoke is seen following a fire at Aramco facility in the eastern city of Abqaiq, Saudi Arabia, Sept. 14, 2019.

บรรดาประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่จากซาอุฯ รวมถึง จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีใต้ คือผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากปริมาณน้ำมันดิบโลกที่ลดลงนี้ ซึ่งล่าสุดทางรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศแล้วว่า จะนำปริมาณน้ำมันสำรองด้านยุทธศาสตร์ของประเทศออกมาใช้

ขณะเดียวกัน วันนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อนุมัติให้นำปริมาณน้ำมันสำรองด้านยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ออกมาใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันแล้วเช่นกัน

XS
SM
MD
LG