ทั่วโลกประณาม 'เกาหลีเหนือ' ทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุด นักวิเคราะห์เชื่อโจมตีได้ถึง "รัฐอลาสก้า"!

The intercontinental ballistic missile Hwasong-14 is seen during its test launch in this undated photo released by North Korea's Korean Central News Agency (KCNA) in Pyongyang, July, 4 2017.

Your browser doesn’t support HTML5

เกาหลีเหนือทดสอบยิงจรวดขีปนาวุธข้ามทวีป

เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบยิงจรวดขีปนาวุธข้ามทวีป ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของกรุงเปียงยางในความพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ท่ามกลางคำเตือนและเสียงประณามจากนานาชาติ

จรวดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือถูกยิงจากสนามบินแห่งหนึ่งใกล้กับชายแดนเกาหลีเหนือติดกับจีน และไปตกในน่านน้ำที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมไปถึงการเมืองโลก และแสดงให้เห็นว่าจีนไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของเกาหลีเหนือได้

สำนักข่าว NBC รายงานอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่อเมริกันสองคนที่ว่า สหรัฐฯ เชื่อว่าการทดสอบจรวดขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือในช่วงคืนวันจันทร์นั้น เป็นขีปนาวุธระยะไกลแบบข้ามทวีปซึ่งสามารถโจมตีจุดไหนก็ได้บนโลก

The intercontinental ballistic missile Hwasong-14 is seen in this undated photo released by North Korea's Korean Central News Agency (KCNA) in Pyongyang, July, 4 2017.

คุณเดวิด ไรท์ นักฟิสิกส์วิทยาศาสตร์แห่งสถาบัน the Union of Concerned Scientists เชื่อว่า หากรายงานเชื่อถือได้จริง ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือทดสอบในครั้งนี้ น่าจะเดินทางได้ไกลถึง 6,700 กม. ซึ่งหมายความว่าจะไปถึง 'รัฐอลาสก้า' ของสหรัฐฯ ได้ แม้จะไม่ถึงแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาก็ตาม

คาดว่ากรณีล่าสุดนี้จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับรัฐบาลจีน เพื่อให้ใช้มาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกับเกาหลีเหนือ

โดยในการประชุมแถลงข่าวในวันอังคาร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เก็ง ฉ่วย กล่าวว่า ปักกิ่งได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดการความท้าทายบนคาบสมุทรเกาหลี พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ใช้ความอดทนอดกลั้นเพื่อผ่อนเพลาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่าจีนได้ขอร้องไปยังเกาหลีเหนือให้ระงับการกระทำที่เป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ และให้ยินยอมกลับมาสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาต่อรอง

รัศมีทำการในระยะ 6,700 กม. หากรายงานการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ระบุไว้

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามเร่งเร้าให้จีนเพิ่มความกดดันให้เกาหลีเหนือยุติโครงการนิวเคลียร์ และเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความแสดงความชื่นชมต่อความพยายามดังกล่าวของจีน แม้จะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร ปธน.ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความอีกครั้ง โดยระบุว่า “จีนควรทุ่มเทหนักขึ้นเพื่อให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำที่ไร้สาระนี้อย่างถาวร”

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังทวีตถึงผู้นำคิม จอง อึน ด้วยว่า “คนคนนี้ไม่มีอะไรทำในชีวิตที่ดีกว่านี้แล้วใช่ไหม? ไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต้องรับมือกับเรื่องแบบนี้”

North Korean Leader Kim Jong Un looks on during the test-fire of inter-continental ballistic missile Hwasong-14 in this undated photo released by North Korea's Korean Central News Agency (KCNA) in Pyongyang, July, 4 2017.

ด้านนายกฯ ญี่ปุ่น ชินโซ่ อาเบะ กล่าวว่าการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นว่าภัยคุกคามจากกรุงเปียงยางกำลังเพิ่มขึ้น และว่าตนจะประชุมร่วมกับ ปธน.จีน สี จิ้นผิง และ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อหารือในเรื่องนี้ด้วย

โดยผู้นำจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ มีกำหนดจะหารือกันในประเด็นเกาหลีเหนือ ที่การประชุมสุดยอดของกลุ่ม G-20 ที่เยอรมนี ปลายสัปดาห์นี้

คุณเช็ง เสี่ยวอี้ ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Renmin ในกรุงปักกิ่ง ชี้ว่า หากสหประชาชาติมีมติให้ใช้มาตรการลงโทษเพิ่มเติมต่อเกาหลีเหนือ มาตรการนั้นควรรวมถึงการห้ามการท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือ และคว่ำบาตรอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของกรุงเปียงยางด้วย

นักวิเคราะห์ผู้นี้ยังเชื่อด้วยว่า ขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือทดสอบครั้งนี้ อาจเดินทางได้ไกลถึง 10,000 กิโลเมตร ถึงกระนั้นต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไป

(ผู้สื่อข่าว Bill Ide และ Saibal Dasgupta รายงานจากกรุงปักกิ่ง / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)