เกาหลีเหนือเดินหน้ายิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลที่สุดในรอบ 5 ปี

South Korea Koreas Tensions

เกาหลีเหนือเดินหน้าการทดสอบอาวุธในวันอาทิตย์ ด้วยการยิงขีปนาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างมากที่สุดนับตั้งแต่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า กรุงเปียงยางกำลังพยายามเล่นเกมจิตวิทยาเพื่อต่อรองกับกรุงวอชิงตันและนานาประเทศ ตามรายงานของสำนักข่าว เอพี

กองทัพญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างรายงานว่า ขีปนาวุธชุดล่าสุดที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบนั้น มีวิถียิงที่สูงและเหมือนจะเพื่อหลีกเลี่ยงการยิงผ่านน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้าน โดยสามารถบินได้สูงถึงระดับ 2,000 กิโลเมตร และไปได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรก่อนจะตกลงในทะเล

ข้อมูลจากทั้งสองแหล่งชี้ว่า เกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 มา ที่มีการยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ครั้งข้ามญี่ปุ่น และขีปนาวุธข้ามทวีป 3 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าจะเป็นที่กรุงเปียงยางจะสามารถยิงอาวุธไปได้ไกลจนถึงสหรัฐฯ

การยิงทดสอบอาวุธในวันอาทิตย์นี้ ถือเป็นการยิงครั้งที่ 7 ของเดือนนี้ โดยการเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธติดๆ กันหลายรอบนี้เหมือนจะตั้งใจกดดันรัฐบาลของปธน.ไบเดน ให้กลับมาร่วมเจรจานิวเคลียร์ที่หยุดชะงักมานาน ขณะที่ ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลเสียต่อสภาพเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือที่ย่ำแย่มานานนับทศวรรษ เนื่องจากการจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาลเอง ผนวกกับแรงกดดันจากมาตรการลงโทษที่สหรัฐฯ ผลักดันให้มีการดำเนินการ

แต่แม้กรุงเปียงยางจะอยู่ในภาวะที่ต้องการความช่วยเหลือจากโลกภายนอกอย่างมาก คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ยังไม่แสดงความเต็มใจที่จะยอมยกเลิกโครงการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่ตนเชื่อว่ามีความสำคัญต่อการคงอยู่ของประเทศ โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า การเดินหน้าโครงการทดสอบยิงต่างๆ นั้นพุ่งเป้าไปที่กรุงวอชิงตันเป็นหนัก เพื่อให้ยอมรับสรรพกำลังด้านนิวเคลียร์ของตน และเพื่อเปลี่ยนทิศทางการเจรจาให้มาเป็นข้อตกลงลดอาวุธทั้งสองฝ่ายแทน

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี มูน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ เรียกประชุมฉุกเฉินสภาความมั่นคงแห่งชาติทันที พร้อมระบุว่า การทดสอบครั้งล่าสุดนั้น น่าจะเป็น “การยิงขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยกลาง” และเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งเป็น “การท้าทายความพยายามของประชาคมโลกในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี สร้างสันติ และหาทางออกผ่านช่องทางการทูต” ในการแก้ไขปัญหาการเผชิญหน้าระหว่างเกาหลีเหนือกับนานาประเทศด้วย

นอกจากนั้น กองบัญชาการภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ประณามการทดสอบอาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ และเรียกร้องให้กรุงเปียงยางหลีกเลี่ยงการทำการใดๆ ที่อาจสั่นคลอนเสถียรภาพ แต่ยืนยันว่า การยิงทดสอบครั้งนี้ไม่ได้ “ถือเป็นภัยคุกคามเร่งด่วนสำหรับบุคลากร อาณาเขตของสหรัฐฯ รวมทั้งของพันธมิตรทั้งหลายด้วย”

  • ที่มา: เอพี