เป็นเวลากว่าทศวรรษแล้ว ที่สมาชิกชุมชนเพศทางเลือก หรือ LGBTQ และผู้สนับสนุนทั้งหลายจะออกมารวมตัวกันเพื่อเดินพาเหรดประจำปีในมหานครนิวยอร์กเพื่อเฉลิมฉลอง Pride Month หรือ เดือนแห่งความภาคภูมิใจ โดยผู้ที่เข้าร่วมงานนั้นจะมาจากทุกส่วนและแต่งกายในแบบที่ตนต้องการทั้งแบบที่เห็นกันคุ้นๆ ตาบนท้องถนน ไปจนถึงชุดที่ทำให้ผู้พบเห็นอาจมีอาการอ้าปากค้างกันได้
แต่ในปีนี้ มีการตั้งข้อจำกัดใหม่สำหรับผู้ที่จะมาร่วมงานพาเหรดในนครแห่งสีสันแห่งนี้ นั่นก็คือ ห้ามตำรวจในเครื่องแบบไม่ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของงานโดยเด็ดขาด
สำนักข่าว เอพี รายงานว่า การตัดสินใจของทีมผู้จัดงานในการห้ามเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของนิวยอร์กเข้าร่วมงานพาเหรดตลอดไป ทำให้หลายคนกลับมาประเด็นอ่อนไหวในสังคมอเมริกันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อัตตลักษณ์ ความเป็นส่วนหนึ่งของสังคม การใช้อำนาจและการลดความสำคัญของตัวบุคคล
ในสายตาของบางคน เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ควรใส่เครื่องแบบมาร่วมการเดินพาเหรดเพื่อระลึกถึงเหตุจลาจล Stonewall เมื่อปี ค.ศ. 1969 ที่เป็นการแข็งขืนของชาวเกย์ที่ Stonewall Inn ในเขตกรีนนิชของนครนิวยอร์ก ที่มีการปะทะระหว่างประชาชนและตำรวจ และจะกลายมาเป็นฉากหนึ่งของประวัติศาสตร์ในยุคแห่งการเรียกร้องสิทธิ์ของคนกลุ่มน้อยในสังคมของสหรัฐฯ และช่วยปลุกกระแสการรณรงค์เรียกร้องให้เกิดความเท่าเทียมกัน และการเคารพเสรีภาพของเกย์ในวงกว้าง
และจวบจนทุกวันนี้ ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายและบางส่วนของชุมชน LGBTQ ก็ยังคงมีอยู่ แม้เวลาจะผ่านมาครึ่งศตวรรษแล้วก็ตาม
จอห์น บลาสโก คือคนหนึ่งที่เข้าร่วมการเดินพาเหรดทุกปี ซึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า คนหลายคนยังมีปัญหาและมีบาดแผลในความทรงจำ เมื่อพูดถึงหน่วยงานรักษากฎหมายอยู่ พร้อมระบุว่า แม้สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและต้องการจะเข้าร่วมเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์หน้านี้ของชนกลุ่ม LGBTQ สิ่งที่ควรทำคือ เข้ามาร่วมโดยไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องแบบ ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจถึงความรุนแรงต่อผู้ที่พยายามจะระลึกและฉลองถึงความภูมิใจในสิทธิ์ของชนกลุ่มน้อยนี้
แต่สำหรับหลายๆ คน การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมเดินพาเหรด LGBTQ นั้น เป็นเหมือนการแสดงออกถึงความหลากหลายทางสังคมและการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ชุมชนนี้ต่อสู้มาอย่างยากลำบาก และต้องการจะทำการเฉลิมฉลองสัญลักษณ์ของการรวมประสานของสมาชิก LGBTQ ในสังคมอเมริกันที่เดินหน้ามาได้จนถึงทุกวันนี้
อนา อาร์โบลีดา เจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ที่เข้าร่วมงานพาเหรดมาหลายครั้งแล้ว และดำรงตำแหน่งรองประธานกลุ่ม Gay Officers Action League ตั้งคำถามว่า ทำไมเธอถึงจะต้องเก็บซ่อนส่วนหนึ่งของตัวเธอ และทำไมเธอถึงควรถอดเครื่องแบบออก ราวกับว่าเธอรู้สึกละอายที่ต้องสวมใส่ชุดนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับงานที่จะจัดขึ้นในปีนี้ ประเด็นการห้ามเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบเข้าร่วมอาจดูไม่ชัดเจนนัก เพราะการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ยังมีการจำกัดกิจกรรมบางประเภทอยู่ และผู้จัดงาน New York City Pride ตัดสินใจจัดงานในรูปแบบเสมือนจริงเป็นหลักไปก่อน แต่ได้ย้ำว่า การตัดสินใจห้ามนี้จะยังมีผลต่อไปอย่างน้อยจนถึงปี ค.ศ. 2025
SEE ALSO: เหตุประท้วงทั่วสหรัฐฯ ดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 7
อันที่จริง ประเด็นเรื่องบทบาทของตำรวจในงานพาเหรดประจำปีนั้นมีการถกเถียงกันมานานหลายปีแล้ว แต่เริ่มเป็นรูปธรรมชัดเจนในปีนี้ เพราะกระแสวิจารณ์และต่อต้านการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อตัวขึ้น หลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวอเมริกันผิวสี ระหว่างถูกตำรวจควบคุมตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้ว ที่นำไปสู่การประท้วงตามท้องถนน และการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจหลายต่อหลายครั้ง
มาร์ค สไตน์ ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย ซาน ฟรานซิสโก สเตท ให้ความเห็นด้วยว่า ความคิดที่เห็นต่างเกี่ยวกับเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเข้าร่วมการเดินพาเหรดนั้น สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นตึงเครียดในการเมืองของกลุ่ม LGBTQ ประเด็นหนึ่งที่มีมายาวนาน และสามารถอธิบายด้วยคำถามที่ว่า เป้าหมายของงาน คือ ความหลากหลายทางสังคม หรือ คือการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ด้านอำนาจพื้นฐานในสังคมและปัญหาด้านความไม่เท่าเทียมกัน มากกว่า