คนเผ่าพื้นเมืองในแคนาดาเเละสหรัฐฯ ต่อสู้เพื่อ “สิทธิ์ไว้ผมยาว”

Photo of Adriel Flett, 5, Oji-Cree member of the Garden Hill First Nation, Manitoba, Canada. Courtesy: Steve McDougall.

กลุ่มคนชนเผ่าพื้นเมืองใช้สื่อสังคมออนไลน์สร้างความตื่นตัว “สิทธิ์ไว้ผมยาว” หลังเด็กชายพื้นเมืองหลายคนถูกล้อเลียนที่โรงเรียน

Your browser doesn’t support HTML5

คนเผ่าพื้นเมืองในแคนาดาเเละสหรัฐฯ ต่อสู้เพื่อ “สิทธิ์ไว้ผมยาว”

ทียา มาเรีย ลาร์จ (Tiya-Marie Large) หนึ่งในสมาชิกชนเผ่า Pheasant Rump Nakota Nation ในจังหวัด Saskatchewan ของเเคนาดา ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกชายอายุ 8 ขวบ ไมลอน เเม็คอาร์เธอร์ (Mylon McArthur) ร้องไห้หลังกลับมาจากโรงเรียน

เธอบอกว่าลูกชายปิดปากเงียบ ไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น เเม้ว่าตนเองจะสัญญาว่าจะไม่โกรธก็ตาม

ลาร์จได้เข้าพบครูของลูกชาย โดยระหว่างการประชุมกับครู ลูกชายร้องไห้ เเละยอมรับว่าถูกเพื่อนในห้องเรียนรังเเก เพราะตนเองไว้ผมยาวเเละถักเปีย

ครอบครัวของลาร์จเพิ่งย้ายไปอยู่ที่อัลเบอร์ต้า (Alberta) โดยไมลอนเป็นเด็กชายชนเผ่าพื้นเมืองเพียงคนเดียวในห้องเรียน ลาร์จ คุณเเม่ของไมลอน กล่าวว่า ตนเองตัดสินใจให้ลูกชายตัดผมเพราะไม่ต้องการให้ลูกถูกเพื่อนรังแก เธอกล่าวว่ามีปัญหาเด็กวัยรุ่นชนเผ่าพื้นเมืองปลิดชีวิตตัวเองเพิ่มขึ้น

ไมลอน ตัดสินใจทำวิดีโอบนหน้าเฟซบุ้คเพื่ออธิบายการตัดสินใจของตนที่จะตัดผม เเละได้ส่งข้อความไปให้เพื่อนนักเรียนเเละครูที่โรงเรียน วิดีโอของเขามีคนเปิดดูอย่างล้นหลาม

"เส้นผม" มีความสำคัญทางความเชื่อทางจิตวิญญาณเเละทางวัฒนธรรมของคนเผ่าที่สืบทอดผ่านขนบธรรมเนียม โดยลักษณะการไว้ผมจะต่างกันไปแล้วเเต่เผ่า ไม่ว่าจะปล่อยให้ยาว ถักเปีย หรือผูกจุก

ชนเผ่าพื้นเมืองของอเมริกาเหนือส่วนมากถือว่า ผมยาว เป็นเเหล่งที่มาของความเข้มเเข็งเเละอำนาจ

แอล. จี. โมเสส (L.G. Moses) อดีตศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย โอกลาโฮม่า สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ กล่าวว่า ทรงผมของคนพื้นเมืองช่วยสร้างความเป็นตัวของตัวเองของปัจเจกบุคคล ความเป็นชาติพันธุ์เเละสังคมในประเทศต่างๆ

ตามนโยบายในช่วงคริสต์ศวรรษที่ 19 ที่มุ่งบังคับรวมเอาคนเผ่าพื้นเมืองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคม รัฐบาลของสหรัฐฯ เเละของแคนาดา ได้เริ่มต้นมาตรการที่ศาสตราจารย์โมเสสเรียกว่า “การโจมตีทรงผมของคนเผ่าพื้นเมือง”

เขากล่าวว่า ผมยาวเป็นสัญลักษณ์ว่าคนมีความศิวิไลซ์หรือไม่ เเละน่าเศร้าที่ในความคิดของบรรดาครูเเละข้าราชการ ถือว่าคนไว้ผมยาวเป็นชาวอินเดียนเเดง ซึ่งเป็นการเรียกที่เเสดงความดูถูกดูเเคลนต่อคนชนเผ่าพื้นเมืองที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมเอาไว้

ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1870 เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในเเคนาดา เเละในสหรัฐฯ ได้โยกย้ายเด็กชนเผ่าพื้นเมืองเข้าไปในโรงเรียนกินนอนที่อยู่นอกเขตตั้งถิ่นฐานของคนพื้นเมือง เพื่อบังคับให้เด็กเลิกเรียนภาษาพื้นเมือง เลิกสวมเสื้อผ้าชนเผ่า เเละเลิกไว้ผมยาว เเม้เเต่ทุกวันนี้ โรงเรียนรัฐบาล เรือนจำ เเละสถานที่ทำงานจำนวนมาก ยังบังคับให้คนพื้นเมืองอเมริกันตัดผม

คอนราด อีเกิ้ล เฟธเธอร์ ชาวเผ่า Sicangu Lakota ที่อาศัยในโรสบัด เรเซอร์เวชั่น (Rosebud Reservation) ในรัฐเซาท์ ดาโกต้า เล่าถึงประสบการณ์ตอนทำงานในบริษัทเเห่งหนึ่งในรัฐเเคลิฟอร์เนียว่า ตนเองต้องการไว้ผมยาว เเต่ผิดกฏระเบียบของทางบริษัท เเละเขาได้ขอให้ผู้นำทางความเชื่อจากเผ่าตนเองเข้าไปอธิบายกับบริษัทว่า ทำไมการไว้ผมยาวมีความสำคัญต่อคนเผ่าพื้นเมือง เเต่ทางบริษัทปฏิเสธที่จะอนุญาตให้เขาไว้ผมยาว

ต่อมาทางบริษัทได้ปรับเปลี่ยนกฏระเบียบเพื่ออนุญาตให้ชายที่ไม่มีเชื้อสายชนเผ่าพื้นเมืองสามารถไว้เคราได้ อีเกิ้ล เฟธเธอร์ จึงได้ขอความช่วยเหลือทางกฏหมายจากหน่วยงานเเห่งหนึ่งเเละชนะความ มีสิทธิ์ที่จะไว้ผมยาวได้

ด้านไมเคิล ลิงค์เลทเทอร์ (Michael Linklater) ชาวเผ่า Nehiyaw จาก Thunderchild First Nation ในจังหวัด Saskatchewan ประเทศเเคนาดา กล่าวว่า เขาเคยถูกรังควานในตอนเป็นเด็ก เพราะไว้ผมเปีย

สองปีที่เเล้ว หลังจากลูกชายของเขาสารภาพว่าถูกรังเเก ลิงค์เลทเทอร์ตัดสินใจจัดการกับปัญหานี้ ในตอนต้นปี ค.ศ. 2016 เขาเริ่มใช้เฟซบุ้คเพจ เพื่อสร้างความตื่นตัวเเก่เรื่องนี้ โดยใช้ชื่อว่า Boys With Braids หรือ “เด็กผู้ชายผมเปีย”

เขากล่าวว่า จำเป็นต้องมีสื่อกลางในการสร้างความภาคภูมิใจของคนหนุ่มสาวชนเผ่าพื้นเมือง ให้โอกาสพวกเขาในการเเสดงความคิดเห็น ความรู้สึกเเละความตื่นตัว เขาเเสดงความหวังว่า การเคลื่อนไหวในเรื่องนี้จะช่วยหยุดยั้งการรังเเกเด็กชายชนเผ่าพื้นเมืองที่ไว้ผมยาวได้

หน้าเฟซบุ้คเพจ “Boys With Braids” ได้รับความนิยมเเพร่หลายจากเเคนาดา มายังสหรัฐฯ เกิดกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเด็กชายผมเปียขึ้นในรัฐเเคลิฟอร์เนีย มิชิแกน นิว เม็กซิโก เเละ เซาท์ ดาโกต้า รัฐเหล่านี้ในสหรัฐฯ ล้วนเเต่มีประชากรชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันจำนวนมาก

เด็กชายไมลอนกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ตั้งเเต่ตัดผมเมื่อ 3 เดือนก่อน ตนเองไม่ถูกเพื่อนที่โรงเรียนรังเเกแล้ว เเต่วันนี้ เขาได้ตัดสินใจว่าตนเองจะปล่อยให้ผมยาวและไม่กลัวว่าใครจะรังแกอีกต่อไป

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)