คีตัน โจนส์ (Keaton Jones) คือชื่อของเด็กชายชาวอเมริกันวัย 11 ปีจากรัฐเทนเนสซี ที่กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ หลังจากคลิปที่เขาเล่าเรื่องทั้งน้ำตา เกี่ยวกับการถูกกลั่นแกล้งรังแกที่โรงเรียน ได้ถูกนำเผยแพร่และแชร์ต่ออย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
เด็กชายวัยมัธยมต้นผู้นี้ตั้งคำถามว่า "ทำไมเพื่อนๆ ต้องแกล้งเขา? ทำไมต้องมีความสนุกบนความทุกข์ของผู้อื่น?" ซึ่งสำหรับตนแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
แม่ของคีตัน คุณคิมเบอร์ลี่ย์ โจนส์ ซึ่งเป็นคนถ่ายวิดีโอคลิปของลูกชาย บอกว่า คีตันเกิดมาพร้อมกับเนื้องอก และต้องรับการผ่าตัด ทำให้มีแผลเป็นยาวบนใบหน้า ซึ่งคีตันบอกว่า เพื่อนพากันล้อเลียนจมูกของเขา บอกว่าเขาน่าเกลียด และยังบอกด้วยว่าไม่มีเพื่อนคนไหนคบเขา
คีตันบอกด้วยว่า "เขาไม่ต้องการให้เด็กคนอื่นต้องโดนรังแกแบบที่เขาโดน และว่าคนเราไม่ควรตัดสินหรือวิจารณ์รูปลักษณ์ภายนอกกัน เพราะคนแต่ละคนก็แตกต่างกัน"
หลังจากคลิปนี้เผยแพร่ออกไป บรรดาคนมีชื่อเสียงในวางการต่างๆ ต่างนำไปแชร์ต่อพร้อมข้อความให้กำลังใจเด็กชายคีตัน พร้อม #StandWithKeaton ไม่ว่าจะเป็น จัสติน บีเบอร์, แคที เพอร์รี และ กัล กาโดส ผู้รับบท “Wonder Woman” รวมทั้ง คริส เอฟเว่นส์ ผู้รับบท “กัปตันอเมริกา” ที่เสนอให้คีตันเข้ามาร่วมชมรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ฮีโร่ตอนใหม่ล่าสุด “Avengers: Infinity War” ซึ่งจะเปิดฉายในเดือน พ.ค. ปีหน้า นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาชื่อดังอีกหลายคนที่โพสต์ข้อความให้กำลังใจคีตันเช่นกัน
นอกจากนี้ เว็บไซต์ GoFundMe ยังได้ช่วยระดมทุนให้กับคีตันได้ถึง 57,000 ดอลลาร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเด็กชายผู้ถูกรังแกผู้นี้ด้วย เท่ากับว่าตอนนี้ คีตัน โจนส์ กลายเป็นเด็กที่มีเพื่อนอยู่ทั่วโลกก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม เหรียญมีสองด้านเสมอ และกรณีของเด็กชายคีตันก็เช่นกัน
เมื่อมีผู้เปิดเผยรูปคุณแม่ของคีตัน คือ คิมเบอร์ลี่ย์ โจนส์ ที่ถ่ายคู่กับธงของกองทัพฝ่ายใต้ในช่วงสงครามกลางเมืองในอเมริกา หรือที่เรียกว่า Confederation flag ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มคนผิวขาวแนวคิดสุดโต่งบางกลุ่ม และการเหยียดผิว
ภาพที่ว่านี้ถูกโพสต์ใน Facbook ของคุณคิมเบอร์ลี่ย์ตั้งแต่หลายเดือนก่อน และเวลานี้บัญชี Facebook ของเธอได้ถูกปิดไปแล้ว ขณะที่เว็บไซต์ GoFundMe ก็หยุดการรับบริจาคเงินเข้ากองทุนของเด็กชายคีตันชั่วคราว
และในวันนี้ คุณแม่ของคีตันได้ออกมากล่าวกับสถานีข่าว CBS ว่า การพยายามผูกโยงตนเข้ากับการเหยียดผิวนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล และว่าตลอดชีวิตของเธอ ถูกรังแกและถูกตัดสินจากภายนอก เพราะเธอไม่เคยคิดจะเลือกปฏิบัติหรือเหยียดผิวใคร
ขณะที่คนดังหลายคน รวมทั้งนักร้องและนักแต่งเพลง จอห์น เมเยอร์ ออกมากล่าวว่า เรากำลังหลงประเด็น เพราะเรื่องนี้จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวกับแม่ แต่เป็นเรื่องของปัญหาการถูกกลั่นแกล้งรังแกในโรงเรียน ซึ่งควรได้รับการแก้ไข
รายงานของเว็บไซต์ Stop Bullying ระบุว่า ราว 1 ใน 3 ของเด็กนักเรียนอเมริกันต่างบอกว่าเคยตกเป็นเหยื่อของการถูกรังแก โดยระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นนั้นถือเป็นระดับที่มีปัญหานี้มากที่สุด และปัญหาการกลั่นแกล้งรังแกในโรงเรียนนี้ยังส่งผลกระทบต่อปัญหาสังคมอื่นๆ รวมทั้ง ปัญหาการฆ่าตัวตายของเด็กและเยาวชนด้วย