ผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา อองซานซูจี ปรากฏตัวต่อหน้าศาลในกรุงเนปิดอว์ เป็นวันที่สองติดต่อกัน เพื่อร่วมการพิจารณาคดีซึ่งมีส่วนเกี่ยวกับข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่นร้ายแรงถึง 2 ข้อหาที่รัฐบาลทหารยื่นฟ้องหลังการก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ในการขึ้นศาลในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นสัปดาห์นี้ นางอองซานซูจี ในวัย 75 ปี ถูกไต่สวนในข้อหาละเมิดกฎหมาย Official Secrets Act และข้อหารับสินบนเป็นเงินสดมูลค่า 600,000 ดอลลาร์ และทองคำ 11 กิโลกรัม รวมทั้งการใช้ที่ดินสาธารณะเพื่อประโยชน์ของมูลนิธิส่วนตัว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมาปรากฎตัวต่อหน้าศาลเพื่อร่วมการไต่สวนคดีในข้อกล่าวหาว่ามีอุปกรณ์สื่อสาร วอล์คกี-ทอล์คกี ไว้ในครอบครองอย่างผิดกฎหมาย และละเมิดกฎหมาย Natural Disaster Management Law ด้วยการทำผิดกฎการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว
ขิ่น หม่อง ซอว์ ทนายความของนางอองซานซูจี ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า ลูกความของตนมีสภาพที่ไม่สู้ดี แต่ “ยังดูเหมือนมีความสนใจและใส่ใจ” ต่อกระบวนการไต่สวนของศาลในวันจันทร์อยู่
นอกจากการไต่สวนคดีของนางอองซานซูจีแล้ว ขิ่น หม่อง ซอว์ เปิดเผยว่า อดีตประธานาธิบดี อู วิน มินท์ ได้ขึ้นศาลในวันจันทร์เพื่อร่วมพิจารณาคดีในข้อหาละเมิดกฎหมาย Natural Disaster Management Law เช่นกัน
การเดินหน้าฟ้องอดีตผู้นำรัฐบาลพลเรือนของเมียนมาเกิดขึ้นหลังจากกองทัพทำการยึดอำนาจเมื่อกว่า 4 เดือนก่อน โดยอ้างว่าเกิดการทุจริตอย่างกว้างขวางในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนของปีที่แล้ว ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางอองซานซูจีได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย แม้ว่าคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งภาคพลเรือนจะยืนยันว่าไม่มีเหตุความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นดังคำอ้างที่ว่าก็ตาม
การก่อรัฐประหารรอบล่าสุดในเมียนมานำมาซึ่งการออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านของประชาชน ขณะที่รัฐบาลทหารดำเนินการปราบปรามด้วยมาตรการรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 800 รายแล้ว ตามข้อมูลขององค์กร Assistance Association for Political Prisoners