เมื่อวันพุธ ทอม แอนดริวส์ ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาของสหประชาชาติ ระบุว่า รัฐกะยา ทางตะวันออกของเมียนมา กำลังจะถึงจุดวิกฤตด้านมนุษยธรรม โดยมีชาวเมียนมาในรัฐดังกล่าวหลายพันคนเผชิญกับความหิวโหยหลังลี้ภัยหนีการสู้รบระหว่างกองกำลังความมั่นคงและกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา
แอนดริวส์ระบุในแถลงการณ์ว่า ประชาชนกว่า 100,000 คนในรัฐดังกล่าวต้องอพยพจากบ้านและหมู่บ้านเพื่อหนีการโจมตีด้วยระเบิดและการยิงปืนใหญ่จากกองกำลังความมั่นคง โดยประชาชนจำนวนมากต้องหนีไปยังป่าบริเวณใกล้เคียงโดยไม่มีอาหาร น้ำ หรือที่พักอาศัย
ผู้รายงานพิเศษระบุว่า เขาได้รับรายงานว่ากองกำลังทหารปิดกั้นเส้นทางในรัฐกะยาเพื่อไม่ให้ผู้ลี้ภัยได้รับความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ถึงกับมีการวางกับดักระเบิดบนท้องถนน
เขาเตือนว่า รัฐกะยาอาจมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากความหิวโหยและโรคภัย หากไม่มีปฏิบัติการช่วยเหลือโดยเร็ว และเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมาดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อสนับสนุนและส่งความช่วยเหลือข้ามชายแดนไปยังเมียนมา
ทั้งนี้ เมียนมาตกอยู่ในความวุ่นวายนับตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนางออง ซาน ซูจี โดยรัฐบาลทหารได้ปราบปรามการประท้วงรายวันทั่วประเทศอย่างรุนแรง กลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ติดตามสถานการณ์คาดว่า ผู้ประท้วงอย่างน้อย 850 คนถูกสังหารนับตั้งแต่มีการรัฐประหาร แม้ว่าทางกองทัพบกเมียนมาจะไม่เห็นด้วยกับตัวเลขดังกล่าวก็ตาม