Your browser doesn’t support HTML5
ชาวพม่าเริ่มใช้สิทธิ์เลือกตั้งซ่อมในวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่นั่งของสมาชิกสาผู้แทนราษฎรว่างลงในหลายเขตสำหรับผู้ที่ได้รับเลือกเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี
การเลือกตั้งซ่อมใน 15 เขตครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องทดสอบความนิยมของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือพรรค NLD ของนาง ออง ซาน ซูจี ที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อสองปีก่อน และเข้าบริหารประเทศในเวลาต่อมา
ชัยชนะของพรรค NLD ได้แรงสนับสนุนจากความหวังที่ประชาชนต้องการเห็นความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ หลังจากที่พม่าอยู่ใต้การปกครองโดยทหารมายาวนาน
อ่อง ซอว์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Irrawddy ของพม่า ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า
"ภาคธุรกิจต้องการเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และคนจำนวนหนึ่งยังผิดหวัง และไม่พอใจกับการที่นโยบายต่างๆ ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า"
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของพม่าอยู่ที่ร้อยละ 6.5 เมื่อปีที่แล้ว ชะลอลงจากร้อยละ 7.3 ปีก่อนหน้านั้น และไม่สามารถทำได้ตามเป้าที่นักวิเคราะห์ต่างประเทศคาดไว้ที่ร้อยละ 8
อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกระบุในรายงานเมื่อเดือนมกราคมว่า การขยายตัวของพม่าจะเร่งเครื่องขึ้นได้ในปีนี้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า สิ่งท้าทายทางเศรษฐกิจของพม่า ส่วนหนึ่งมาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินที่ผันผวน และข้อจำกัดด้านโครงสร้างทางเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาการขาดความชัดเจนของนโยบายทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้เงินลงทุนต่างประเทศในพม่าลดลง ท่ามกลางการอ่อนกำลังลงของเศรษฐกิจจีน
ผู้สันทัดกรณีจากบริษัท Steve Vickers Associates ที่ฮ่องกง กล่าวว่า "อนาคตทางเศรษฐกิจของพม่ายังมีความไม่แน่นอนสูง และอาจมีการลุกฮือขึ้นต่อต้านรัฐบาลโดยประชาชน"
ด้านรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการวางแผนของพม่า เกียว วิน บอกไม่นานนี้ว่า
"เศรษฐกิจของประเทศกำลังเดินมาในแนวทางที่ถูกต้อง โดยในปีหน้าและปีถัดไปเศรษฐกิจของประเทศจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรง"
(รายงานโดย Ron Corben / รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง)