Your browser doesn’t support HTML5
ก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์เรื่อง Don’t Breathe เคยประสบความสำเร็จในการสร้างความระทึกให้คอหนังสยองขวัญไม่กล้าหายใจมาแล้ว มาคราวนี้หลายคนต้องลุ้นกันว่า ภาพยนตร์สยองขวัญแนวไซไฟอย่าง A Quiet Place หรือ ดินแดนไร้เสียง จะสร้างปรากฏการณ์กลัวจนไม่กล้าหายใจหรือเคี้ยวป๊อบคอร์นในโรงหนังเสียงดังได้หรือไม่?
A Quiet Place หรือ ดินแดนไร้เสียง ภาพยนตร์สยองขวัญ กระตุกขวัญสั่นประสาท พ่วงด้วยดราม่า จากผลงานเขียนบท กำกับ และนำแสดงโดย John Krasinski และได้ศรีภรรยาในชีวิตจริง Emily Blunt มาร่วมรับบทภรรยาของเขาในเรื่องด้วย ขณะที่นักแสดงเด็ก ได้ Millicent Simmonds นักแสดงเด็กหญิงอเมริกันที่หูหนวกเป็นใบ้ ซึ่งเคยฝากผลงานไว้ใน Wonderstruck และหนูน้อย Noah Jupe จากภาพยนตร์เรื่อง Wonder
ดินแดนไร้เสียง พาเราไปในยุคดิสโทเปีย ปี 2020 มนุษย์ทั่วโลกถูกเอเลี่ยนตาบอดเข่นฆ่าจนหมด เหลือเพียงครอบครัว Abbott ที่อยู่รอดมาได้ด้วยการใช้ชีวิตโดยปราศจากเสียงและใช้ภาษามือในการสื่อสารเท่านั้น ทว่า วันหนึ่ง ลูกชายคนสุดท้อง นามว่า โบ ถูกฆ่าโดยเอเลี่ยนระหว่างทางกลับบ้านเพราะของเล่นที่มีเสียง จึงได้สร้างบาดแผลในใจให้ครอบครัวนี้ จนถึง 1 ปีต่อมา ที่ครอบครัว Abbott กำลังต้อนรับสมาชิกใหม่ที่อยู่ในท้องของผู้เป็นแม่ การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดด้วย “ความเงียบ” จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ในส่วนข้อดีของหนัง คือ บรรยากาศแห่งความกดดันที่หนังอัดเข้ามาในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง การสร้างตัวเอเลี่ยนในเรื่องที่รู้สึกน่ากลัว น่าสยดสยอง จนไม่อยากหายใจใกล้ๆ เพราะกลัวมันได้ยิน แม้จะโผล่มาไม่มาก แต่พอมีซีนก็ทำเอาหลอนได้เหมือนกัน
อย่างที่สอง คือ การแสดงของนักแสดงทั้ง 4 ที่ให้ความรู้สึกเป็นครอบครัวจริงๆ John Krasinski และ Emily Blunt ถือเป็นคู่สามีภรรยาที่เคมีเข้ากันทั้งในจอและนอกจออย่างไม่น่าเชื่อ คงต้องยกประโยชน์ให้กับ Emily Blunt ที่ถือว่าจัดจ้านในย่านฮอลลีวู้ด เพราะพื้นฐานของ John Krasinski มาจากซีรีส์ The Office และหนังสายตลกเสียส่วนใหญ่
แต่ที่ประทับใจกว่า คือ เหล่านักแสดงเด็กที่พลังล้นเหลือมาก ความกลัว ความสงสัย ความไร้เดียงสา มันถ่ายทอดออกมาชัดเจนมากจนประทับใจ และเชื่อว่าทั้งคู่จะไปได้ไกลในวงการฮอลลีวู้ด
มาถึงตรงนี้ต้องย้ำว่า ใครที่ไม่ชื่นชอบภาพยนตร์แบบ non-verbal หรือบทพูดน้อย ก็อาจจะง่วงหลับไปได้ แต่หนังไม่ได้ทำให้คุณง่วงนาน เพราะเต็มไปด้วยฉากให้ลุ้นระทึก ตัวเกร็งแทบทั้งเรื่อง
ภาพยนตร์เปิดมาด้วยการใช้เสียงในภาพยนตร์เพื่อบอกว่าทุกท่วงท่าอริยาบทของคุณก่อให้เกิดเสียง และเสียงคือความเสี่ยงถึงชีวิต แต่ปรากฏว่าในช่วงกลางเรื่องกลับใส่เสียงดนตรีเข้าจนเสียอรรถรส ทั้งที่เสียงในภาพยนตร์โดยส่วนตัวทำมาดีอยู่แล้ว ถือว่าเสียของพอสมควรในความเห็นส่วนตัวของผู้วิจารณ์
ขณะที่ตัวบทดราม่าทำได้ไม่สุด อาจเป็นเพราะเวลาอันแสนรวบรัดตัดตอนในฉากดราม่า ถ้าให้เวลากับเรื่องนี้ควรจะขยี้ให้สุดกว่านี้
แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบความระทึกขวัญสั่นประสาท การเอาชีวิตรอดบนโลกที่ปราศจากเสียงให้สื่อสาร และทุกย่างก้าวของคุณคือความตาย แนะนำให้ซื้อตัวไปชมได้เลย
...แต่อย่าเผลอสั่งข้าวโพดคั่วและขนมกรุบกรอบเข้าไป รวมทั้งอย่าเผลอดูดน้ำเสียงดัง เพราะจะทำให้คนทั้งโรงตกใจระหว่างการชมได้
(บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย นีธิกาญจน์ กำลังวรรณ)