ทางการรัสเซียเผยในวันพุธว่ากรุงมอสโกเผชิญกับการโจมตีโดยฝูงโดรนจากยูเครนครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุขึ้นเมื่อปี 2022 ด้านผู้นำอินเดียเรียกร้องการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติระหว่างสองชาติ ก่อนการเยือนยูเครนในปลายสัปดาห์นี้
นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี มีกำหนดการเยือนกรุงเคียฟของยูเครนในวันศุกร์ หลังเดินทางเยือนโปแลนด์ โดยจะหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน
โมดีถือเป็นนายกรัฐมนตรีอินเดียคนแรกที่เดินทางเยือนยูเครน นับตั้งแต่สองชาติมีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยผู้นำอินเดีย กล่าวว่าตนจะ “แลกเปลี่ยนมุมมอง” เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างสันติ
โมดี เคยพบกับเซเลนสกีมาแล้วในการหารือนอกรอบเวทีประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี7 ที่อิตาลี เมื่อเดือนกรกฎาคม และรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนได้เยือนกรุงนิวเดลีเมื่อเดือนมีนาคม เพื่อกระชับสัมพันธ์การทูตและเศรษฐกิจ
เมื่อเดือนกรกฎาคม โมดีเพิ่งพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย 1 วันหลังจากรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายหลายจุด รวมทั้งโรงพยาบาลเด็กในกรุงเคียฟ ซึ่งผู้นำยูเครนได้วิจารณ์การพบกันของปูตินและโมดีในครั้งนั้น
โดยการเยือนยูเครนของโมดีถูกมองว่าเป็นความพยายามของอินเดียในการสมดุลสัมพันธ์ชาติตะวันตก เพราะที่ผ่านมา อินเดียไม่ได้เข้าร่วมกับพันธมิตรชาติตะวันตกในการระบุให้รัฐบาลมอสโกต้องรับผิดชอบกับสงครามที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อปี 2022 แต่ได้ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการเจรจาและการทูตแทน
ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการเยือนโปแลนด์และยูเครนของผู้นำอินเดีย เป็นความพยายามของรัฐบาลกรุงนิวเดลีในการสร้างบทบาทผู้นำในระดับโลก ผ่านการสร้างสัมพันธ์กับประเทศยุโรปตอนกลางและตะวันออก
สำหรับสถานการณ์สู้รบในวันพุธ กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่าได้ทำลายโดรน 45 ลำของยูเครนในช่วงข้ามคืน โดย 11 ลำบินอยู่เหนือน่านฟ้าในกรุงมอสโก 23 ลำที่บรีแยนสก์ 6 ลำที่เบลโกรอด 3 ลำที่คาลูกา และอีก 2 ลำที่แคว้นเคิร์สก
เซอร์เกย์ โซบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก โพสต์ผ่านเทเลแกรมว่า “นี่คือความพยายามครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในการโจมตีกรุงมอสโกด้วยโดรน” และว่าโดรนทั้งหมดถูกทำลายเพราะระบบป้องกันที่แข็งแกร่งทั่วเมืองหลวงของรัสเซีย
การโจมตีครั้งใหญ่ด้วยโดรนยูเครน เกิดขึ้นในช่วงที่กองทัพยูเครนเดินหน้ารุกคืบเข้ามาในแคว้นเคิร์สกของรัสเซียเมื่อต้นเดือนสิงหาคม และดูเหมือนมีแนวโน้มที่จะเป็นการเปลี่ยนพลวัตการต่อสู้ ในระหว่างที่ยูเครนสูญเสียพื้นที่ในสมรภูมิในเขตปกครองดอนบาสทางตะวันออกของประเทศ
- ที่มา: วีโอเอ เอพี รอยเตอร์