"โรคอ้วน" อุปสรรคขวางการเพิ่มจำนวนทหารใหม่ของ "ทรัมป์"

FILE - Matt Elam, center, competes in a US Marine pull-up contest while Marine recruiters Sgt. Marco Hartanto, left, and Gysgt. Brian Lancioni watch during BayFest 2006 held at Marine Corps Base Hawaii, Tuesday, July 4, 2006, in Kaneohe, Hawaii.

Your browser doesn’t support HTML5

"โรคอ้วน" อุปสรรคขวางการเพิ่มจำนวนทหารใหม่ของ "ทรัมป์"

คำประกาศชักชวนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้หนุ่มสาวชาวอเมริกันมาสมัครเป็นทหาร ตลอดจนการนำรถถังและเครื่องบินรบออกมาจัดแสดงโชว์กลางกรุงวอชิงตัน เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติอเมริกาในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูจะไม่เพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ประสบภาวะขาดแคลนทหารใหม่

ถึงแม้ในปีที่ผ่านมา กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และเหล่านาวิกโยธินสหรัฐฯ จะสามารถสรรหาทหารใหม่ได้ตรงตามเป้า แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รายงานว่า กองทัพบก ซึ่งเหล่าทัพที่ใหญ่ที่สุด กลับประสบภาวะขาดทหารใหม่ถึง 6,500 คน หรือประมาณร้อยละ 8 ของยอด 76,500 คนที่ตั้งไว้

ข้อมูลจากรายงาน Mission: Readiness ในปีที่ผ่านมา ที่จัดทำโดยนายพลเกษียณอายุจากทุกเหล่าทัพจำนวน 750 คน พบว่า 2 ใน 3 ของหนุ่มสาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 17-24 ปี ขาดคุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่จะเข้าเป็นทหาร

สาเหตุหลัก มาจาก “ภาวะโรคอ้วน” โดยรายงานระบุว่า 1 ใน 3 ของเยาวชนอเมริกันขาดคุณสมบัติเพราะมีน้ำหนักตัวเกิน นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น การขาดวุฒิการศึกษา การมีประวัติการก่ออาชญากรรม และการใช้สารเสพติด

พลเอก Allen Youngman นายพลเกษียณอายุและหนึ่งในผู้จัดทำรายงาน Mission: Readiness บอกว่า หนึ่งในสี่ของนักเรียนที่จบมัธยมปลาย สอบไม่ผ่านข้อสอบพื้นฐานสำหรับการเข้าเป็นทหาร

นอกจากนี้ หนุ่มสาวชาวอเมริกันที่สนใจอาชีพทหารก็มีจำนวนน้อยลง พลเอก Youngman บอกว่าการที่สหรัฐฯ มีเศรษฐกิจดี มีการจ้างงานในภาคเอกชนสูง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไม่ค่อยสนใจการเป็นทหาร

พลเอก Youngman ยังบอกว่า การลดหย่อนคุณสมบัติ โดยเฉพาะเรื่องวุฒิการศึกษา หรือประวัติการก่อคดีอาชญากรรม ไม่ใช่ทางออก เพราะกองทัพต้องรักษามาตรฐานเอาไว้ แต่กองทัพจะต้องทำงานให้มากขึ้นเพื่อสรรหาคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน

แต่นับวัน การสรรหาทหารใหม่มีแนวโน้มที่จะยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะภาวะโรคอ้วนเป็นปัญหาใหญ่ของสหรัฐฯ ในจำนวนเด็กอเมริกันที่มีอายุเพียง 2 ขวบ มีถึงร้อยละ 14 ที่ถือได้ว่าเข้าสู่ภาวะโรคอ้วนแล้ว และอัตราส่วนนี้ก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เกือบครึ่งหนึ่งของวัยรุ่นอเมริกันอายุ 16-19 ปี มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน และ ร้อยละ 70 ของวัยรุ่นที่มีน้ำหนักเกิน ก็จะเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนในที่สุด

พลเอก Youngman บอกว่าทางออกหนึ่ง คือการหันมาใส่ใจและส่งเสริมให้เยาวชนอเมริกันได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่ใช้ชีวิตเฉื่อยชา ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นผลดีต่ออนาคตของกองทัพ แต่ยังดีต่อสังคมและสุขภาพของทุกคนด้วย