สื่อต่างชาติเกาะติดการประชุมสภาฯ ของไทยเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ซึ่งพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้คะแนนเสียงสนับสนุนไม่ถึงเป้าหมาย
รอยเตอร์และเดอะการ์เดียน รายงานว่า พิธา ที่แม้ได้จะรับการเสนอชื่อแบบไร้คู่แข่งและมีเสียงจากพรรคร่วมหนุนหลังในการโหวตครั้งนี้ แต่กลับได้คะแนนเสียงเพียง 324 เสียง ซึ่งมาจากฝั่งสว. 13 เสียง ขณะที่มีโหวตค้าน 182 เสียง และงดออกเสียง 199 เสียง
พิธากล่าวกับรอยเตอร์ว่า "ผมยอมรับผลที่ออกมาวันนี้ แต่ผมไม่ยอมแพ้ ผมยอมรับว่าผมได้ไม่ถึง 376 เสียง ผมได้ 324 โหวต และมี 200 ท่านที่งดออกเสียง ผมยอมรับด้วยว่าผลที่ได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ในแง่ที่ว่ามีหลายคนที่ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม และบางคนก็ไม่ได้ลงคะแนนตามที่ใจต้องการ ผมเข้าใจว่าบางคนได้รับความกดดัน หรือมีแรงจูงใจที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถลงคะแนนเสียงไปในทางเดียวกับเสียงของประชาชนได้ แต่ผมไม่ยอมแพ้ ผมจะหาวิธีอีกครั้งเพื่อรวบรวมให้ได้ 376 โหวตต่อไป"
Your browser doesn’t support HTML5
ด้านสื่อเซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ รายงานด้วยว่า พิธา ยืนยันว่าเขาจะ “ไม่ยอมแพ้” หลังจากได้คะแนนเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอในการเป็นนายกฯ ในการลงมติครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาในไทย
พิธา กล่าวหลังการโหวตเสร็จสิ้นว่า เขายอมรับผลคะแนนที่ออกมาแต่ไม่ยอมแพ้ พร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณ 13 เสียง(จากสว.)ที่กล้าหาญมากพอที่จะสะท้อนเสียงของประชาชน”
สำหรับการโหวตนายกฯ จะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งในสัปดาห์หน้า และพิธามีโอกาสอีก 2 ครั้งในการโน้มน้าวผู้สนับสนุนและนักการเมืองฝั่งอนุรักษ์นิยมให้หนุนเขาเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของไทยได้
ด้านอัลจาซีราห์ รายงานว่าความพ่ายแพ้ของพิธาในการโหวตครั้งแรก นำไปสู่ภาวะชะงักงันทางการเมืองและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของไทยในอีกหลายสัปดาห์จากนี้ และพันธมิตรของพิธาจะต้องเลือกระหว่างสนับสนุนเขาอีกครั้งในการประชุมสภานัดต่อไปในวันที่ 19 กรกฎาคม หรือจะเลือกเสนอชื่อแคนดิเดตอื่นขึ้นมา
ในเรื่องนี้ สื่อเดอะการ์เดียน รายงานว่า มีแนวโน้มที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคในการโหวตครั้งต่อไป
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร. พรรณชฎา ศิริวรรณบุศย์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ให้ทัศนะกับเดอะการ์เดียนว่า หากมีการเสนอชื่อพิธาอีกครั้งในการโหวตครั้งหน้า มีแนวโน้มว่าเขาอาจจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะเป็นนายกฯ ได้ และว่า “สำหรับสว. จะเป็นเรื่องยากสำหรับ(พรรคก้าวไกล)ในการได้รับคะแนนเสียงมากขึ้นในการโหวตรอบสอง และสิ่งที่อันตรายก็คือผู้ที่โหวต(ให้พิธา)อาจถูกล็อบบี้จากสว.รายอื่นเพื่อไม่ให้ลงคะแนนให้อีกในรอบสอง”
รองศาสตราจารย์ ดร. พรรณชฎา เสริมว่ามีความเป็นไปได้ว่าแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยอาจได้รับการยอมรับในสภามากกว่า ทั้งจากกลุ่มที่แค่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ครองอำนาจมากตั้งแต่ก่อรัฐประหารเมื่อปี 2014 ออกไป แต่อาจไม่เป็นที่พึงพอใจสำหรับคนรุ่นใหม่และอาจนำไปสู่การเดินขบวนได้
- ที่มา: รอยเตอร์ เดอะการ์เดียน อัลจาซีราห์ และเซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์