นักวิเคราะห์เชื่อลาวกำลังก้าวออกจาก 'เงาจีนและเวียดนาม' หลังโอบาม่าเลือกเยือนลาว

US President Barack Obama waves upon his arrival at Wattay International Airport in Vientiane, Laos, Sep 5, 2016.

ไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐเยือนประเทศลาวมาก่อน ครั้งนี้จึงถือเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับลาว

Your browser doesn’t support HTML5

Laos Obama

นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า การที่ ปธน. บารัค โอบาม่า เดือนทางเยือนลาวเป็นเวลา 3 วัน แสดงให้เห็นว่าเวลานี้ลาวกำลังก้าวออกมาจากจากอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและจีน

ตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ลาวตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเวียดนามทั้งทางการเมืองและวัฒนธรรม จนมาถึงยุคการปฏิวัติสังคมนิยม เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ของลาวส่วนใหญ่ต่างใช้ชีวิตบางช่วงอยู่ในเวียดนาม หลายคนพูดภาษาเวียดนามได้อย่างคล่องแคล่ว

คุณ เหงียน ง็อก เตรือง นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศและอดีตนักการทูตระดับสูงของเวียดนาม ระบุว่าทุกวันนี้เวียดนามยังคงมองว่าลาวเป็นเพื่อนบ้านที่ทรงความสำคัญ แม้ว่าความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจปริมาณมหาศาลที่ลาวได้จากจีน จะทำให้จีนอยู่ในสถานะที่เหนือกว่าเวียดนาม

นักวิเคราะห์ผู้นี้ชี้ว่า เวียดนามเข้าใจดีถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งจีนก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างมากในลาว สืบเนื่องจากความช่วยเหลือที่รัฐบาลปักกิ่งมอบให้กับรัฐบาลกรุงเวียงจันทน์

คุณ เหงียน ง็อก เตรือง กล่าวว่า ประเด็นเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้คือส่วนหนึ่งที่ช่วยยืนยันในเรื่องนี้ หลังจากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ ต่างช่วยสกัดกั้นไม่ให้สมาคมอาเซียนมีแถลงการณ์ที่เป็นเอกฉันทน์ เพื่อจัดการท่าทีก้าวร้าวของจีนในการอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนใต้

ถึงกระนั้น คุณเหงียนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยาวนานระหว่างลาวกับเวียดนามแต่อย่างใด

ตามรายงานที่ปรากฏอยู่ในสื่อของทางการจีน เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากจีนเข้าไปในลาวนั้นสูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหมายความว่าเงินลงทุนจากเวียดนามไม่สามารถเทียบได้กับอิทธิพลทางเศรษฐกิจที่จีนมีต่อลาว หรือที่นักวิเคราะห์ผู้นี้เรียกว่า “การรุกรานทางเศรษฐกิจ”

U.S. President Barack Obama (C) is greeted with an honor guard and red carpet as he arrives aboard Air Force One, ahead of the ASEAN Summit, at Wattay International Airport in Vientiane, Laos, Sept. 5, 2016.

อย่างไรก็ตาม คุณ โฮ คัม กอย แห่งศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ในนครโฮจิมินท์ กล่าวว่าในระดับประชาชน ผู้คนทั้งสองประเทศยังมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมตลอดเวลา

นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่าชาวเวียดนามจำนวนมากยังต้องการเรียนภาษาลาว ทั้งเพื่อเดินทางไปศึกษา ทำธุรกิจ หรือไปตั้งรกรากในลาว

สำหรับการเยือนลาวของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า เป็นเวลา 3 วันในสัปดาห์นี้ บรรดานักวิเคราะห์ต่างเชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯ อาจต้องขบแก้กับหลายประเด็นที่สืบเนื่องมาจากอดีตที่สหรัฐฯ เคยเข้าไปปฏิบัติการทางทหารในลาวในช่วงสงครามเวียดนาม หนึ่งในนั้นคือระเบิดจำนวนมากที่สหรัฐฯ ทิ้งลงไปในลาว แต่ยังไม่ระเบิดจนถึงทุกวันนี้

ทางการลาวประเมินว่ายังมีลูกระเบิดดาวกระจายขนาดเท่าลูกเทนนิสที่ยังไม่ระเบิด ตกค้างอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศลาว ประมาณ 80 ล้านลูก ซึ่งพร้อมระเบิดได้ตลอดเวลา

คาดว่า ปธน. โอบาม่า จะประกาศให้เงินทุนช่วยเหลือแก่รัฐบาลเพื่อช่วยในการกู้ระเบิดเหล่านั้น ขณะที่รัฐบาลลาวมีแนวโน้มว่าจะเสนอความช่วยเหลือในการติดตามข้อมูลของอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่สูญหายหรือเสียชีวิตในลาว ให้แก่สหรัฐฯ เป็นการแลกเปลี่ยน

ไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐเยือนประเทศลาวมาก่อน ครั้งนี้จึงถือเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับลาว

นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่า คราวนี้เป็นโอกาสอย่างจริงจังที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับลาวก้าวหน้าต่อไปได้ เพื่อเริ่มต้นการเป็นเพื่อนร่วมงานที่จะทำประโยชน์ให้กับทั้งสองประเทศ

รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีโอบาม่า ที่ต้องการจะสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ซึ่งสหรัฐฯ เคยมีประวัติเกี่ยวข้องที่สลับซับซ้อนมา

(ผู้สื่อข่าว Trung Nguyen รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)