Your browser doesn’t support HTML5
สัปดาห์ที่แล้ว พรรคคอมมิวนิสต์ลาวได้จัดการประชุมใหญ่ของพรรคครั้งที่ 10 และได้มีการเลือกเลขาธิการพรรคคนใหม่ คือนายบุนยัง วอละจิต ซึ่งจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของลาว แทนนายจูมมะลี ไซยะสอน ที่หมดวาระการดำรงตำแหน่ง
นายบุนยัง ปัจจุบันอายุ 78 ปี เขามีความสัมพันธ์ที่ดียาวนานกับเวียดนาม ตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักศึกษาและร่วมฝึกทหารกับเวียดนาม
สื่อของทางการลาวระบุว่า ผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์ลาวเกือบ 700 คน ซึ่งเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ลาว 200,000 คน ได้ร่วมประชุมสภาเป็นเวลา 5 วันที่กรุงเวียงจันทน์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นการประชุมครั้งที่ 10 ตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์ลาวขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี พ.ศ 2518
และนอกจากการแต่งตั้งนายบุนยัง เป็นเลขาธิการพรรคและประธานาธิบดีคนใหม่แล้ว ยังมีการแต่งตั้งอดีต รมต.ต่างประเทศลาว ทองลุน สีสุลิด ให้เป็นนายก รมต.คนใหม่ของลาวด้วย
แหล่งข่าวในกรุงเวียงจันทน์กล่าวกับ VOA ว่า นายทองลุนคือผู้สนับสนุนให้มีการสานสัมพันธ์ระหว่างลาวกับสหรัฐฯ
ดร.ฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชื่อว่าภาพรวมนโยบายต่างๆของลาว จะยังไม่เปลี่ยนแปลงภายใต้การนำของผู้นำคนใหม่ และคาดว่ารัฐบาลลาวชุดนี้จะยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อไปเหมือนรัฐบาลชุดก่อน
ส่วนอาจารย์ Carl Thayer นักวิเคราะห์จาก ม.New South Wales ในออสเตรเลีย กล่าวว่า ปธน.สหรัฐฯ บารัค โอบาม่า จะเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเดือน พ.ค และได้แสดงความตั้งใจว่าจะทำงานกับลาวในฐานะประธานอาเซียน เพื่อให้อาเซียนมีความเป็นอิสระ เป็นกลาง และไม่เอนเอียงเข้าหาจีนมากเกินไป
ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า การที่ลาวได้นั่งตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้ จะทำให้ทั่วโลกจับตามองลาวว่าจะสามารถรักษาสมดุลทางการทูตระหว่างประเทศ พร้อมไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร?
นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าการเกษียณของสมาชิกคณะกรรมการ Politburo 2 คนที่มีแนวคิดสนับสนุนจีน อาจส่งผลให้อิทธิพลของจีนที่มีต่อลาวอ่อนแอลง
ที่ผ่านมาจีนคือผู้ลงทุนรายใหญ่ในลาว ตามด้วยเวียดนามและไทย
(ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียงจากรายงานของผู้สื่อข่าว Ron Corben)