Your browser doesn’t support HTML5
เวลานี้ ทั่วโลกกำลังจับตามองไปที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชาง ของเกาหลีใต้ หลังจากที่เกาหลีเหนือส่งนักกีฬาไปร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย
ดูเหมือนความวุ่นวายบนคาบสมุทรเกาหลีในขณะนี้ได้สงบลงชั่วคราว ในช่วงที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชาง ของเกาหลีใต้ กำลังจะเริ่มขึ้นในสุดสัปดาห์นี้
เกาหลีเหนือตกลงส่งนักกีฬา 22 คนไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬารายการนี้ โดยจะมีการเดินพาเหรดร่วมกับนักกีฬาเกาหลีใต้ในพิธีเปิดการแข่งขัน และยังอนุญาตให้นักกีฬาฮ็อกกี้หญิงเข้าร่วมลงแข่งกับนักกีฬาของเกาหลีใต้ ภายใต้ธงรวมประเทศ หรือ Unification flag ด้วย
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังได้ส่งทีมเชียร์ลีดเดอร์สาว 230 ชีวิต ที่ถูกขนามนามว่า กองทัพโฉมงาม เข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ถึง 25 กุมภาพันธ์นี้ ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่เกาหลีเหนือยอมส่งกองทัพโฉมงามมาเยือนเกาหลีใต้ รวมทั้งยังมีศิลปินและวงดนตรีจากเกาหลีเหนือที่มาร่วมแสดงในพิธีเปิดที่เมืองพย็องชางด้วย
เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้ ภายใต้การนำของ ปธน.มูน แจ-อิน เกิดความหวังในการสานสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีเพื่อบรรเทาวิกฤตการณ์ด้านนิวเคลียร์ แต่ดูเหมือนจะมีเสียงต่อต้านไม่น้อยในหมู่ชาวเกาหลีใต้เอง ที่มองว่ารัฐบาลนายมูน แจ อิน โอนอ่อนให้เพื่อนบ้านทางเหนือมากเกินไป
ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเคลือบแคลงสงสัยต่อท่าทีดังกล่าวของกรุงเปียงยาง โดยเชื่อว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังพยายามหาเสียงสนับสนุนให้ผ่อนเพลามาตรการลงโทษของสหประชาชาติ
ที่ผ่านมา ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ สนับสนุนมาตรการกดดันเกาหลีเหนือขั้นสูงสุด เพื่อให้เกาหลีเหนือยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการลงโทษและมาตรการทางทหารร่วมด้วย เพื่อไม่ให้เกาหลีเหนือมีอาวุธที่สามารถโจมตีได้ถึงแผ่นดินของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้ยกเลิกการซ้อมรบชั่วคราวระหว่างการแข่งขันโอลิมปิก แต่ก็ยืนยันแล้วว่าจะกลับมาซ้อมรบอีกครั้งหลังจบการแข่งขัน และผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ยังไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าจะเกิดสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีภายหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้จบลง
นักวิเคราะห์คาดว่าผู้นำคิม จอง อึน อาจสั่งการให้มีการเดินสวนสนามครั้งใหญ่ของกองทัพเกาหลีเหนือ หนึ่งวันก่อนวันที่มีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก คือวันศุกร์นี้ และอาจรวมถึงการแสดงแสนยานุภาพของจรวดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือด้วย
ส่วนทางกรุงวอชิงตันก็มีการพูดถึงการใช้มาตรการทางทหารแบบจำกัด เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามครั้งต่อไปของเกาหลีเหนือ แม้จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีก็ตาม
(ผู้สื่อข่าว Brian Padden รายงานจากกรุงโซล / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)