อิสราเอลเดินหน้าโจมตีภาคพื้นดินและทางอากาศ บุกทะลวงเข้าไปทางตะวันตกของเมืองราฟาห์ ในวันพุธ คร่าชีวิต 8 คน ตามการเปิดเผยของประชาชนและทีมแพทย์ปาเลสไตน์ในพื้นที่ ด้านข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ชี้ว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกาซ่า “อาจเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของกฎหมายสงครามซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
สงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ดำเนินมากว่า 8 เดือน ยังไร้สัญญาณยุติแม้ว่าจะมีความพยายามจากนานาประเทศในการช่วยผลักดันการหยุดยิงระหว่างสองฝ่าย
ในวันพุธประชาชนในราฟาห์เผยว่ารถถังเคลื่อนที่ไปยัง 5 พื้นที่หลังเที่ยงคืน มีการเสียงระเบิดและเสียงปืนถล่มเต็นท์ผู้พลัดถิ่นในเขตอัล-มาวาซี ทางตะวันตก ด้านทีมแพทย์และสื่อฮามาส เผยว่ามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 8 คนในอัล-มาวาซี และหลายครอบครัวต้องรีบอพยพไปยังตอนเหนือเพราะความตื่นตระหนก
ตอนนี้ตัวเลขของหน่วยงานสหประชาชาติและจากทางปาเลสไตน์ ชี้ว่า ผู้ที่ยังคงอยู่ในเมืองราฟาห์นั้นเหลือเพียงไม่ถึง 100,000 คนแล้ว จากเดิมที่เคยเป็นที่พักพิงสุดท้ายของชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่น 2.3 ล้านคน
ด้านผู้บัญชาการทหารอิสราเอล เผยเมื่อวันอังคารว่า มีอีก 2 พิกัด คือ ชายูรา และเทล อัล-สุลต่าน ที่ทหารอิสราเอลเตรียมเข้าจัดการนักรบฮามาสที่นั่น และว่าความช่วยเหลือที่เข้าไปในกาซ่าไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของอิสราเอล
Your browser doesn’t support HTML5
ยูเอ็นเผยอิสราเอลอาจละเมิดกฎหมายสงคราม
รายงานจาก UNHCR ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ ตรวจสอบการโจมตีทางอากาศจากกองทัพอิสราเอล 6 ครั้ง ในช่วงเดือนตุลาคมและเดือนธันวาคมปีก่อน ในช่วงเริ่มต้นสงครามในกาซ่า พบว่า มีผู้คนกว่า 200 คนเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าว ซึ่งมุ่งเป้าไปยังอาคารที่พักอาศัย โรงเรียน ตลาด และค่ายผู้ลี้ภัย
ในรายงานยังพบว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทั้ง 6 ครั้ง เกี่ยวข้องกับการใช้ระเบิดน้ำหนัก 113-907 กิโลกรัม และกองทัพอิสราเอล “อาจละเมิดหลักการแบ่งแยก จัดสัดส่วน และการปฏิบัติตามข้อควรระวังในการโจมตีอย่างเป็นระบบ”
โวลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ดูเหมือนว่าอิสราเอลไม่ได้พยายามที่จะ “แยกแยะความแตกต่างอย่างมีประสิทธิภาพ” ระหว่างพลเรือนผู้บริสุทธิ์ปาเลสไตน์กับนักรบฮามาส ในการระเบิดโจมตีในกาซ่า และว่า “ชีวิตผู้บริสุทธิ์และโครงสร้างพื้นฐานต้องได้รับการปกป้อง” ภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ “กฎหมายนี้วางข้อบังคับไว้อย่างชัดแจ้งว่าแต่ละฝ่ายในความขัดแย้งต้องปกป้องผู้บริสุทธิ์เป็นวาระสำคัญ”
ด้านอิสราเอลกล่าวว่ารายงานดังกล่าว “มีความบกพร่องตามข้อเท็จจริง ตามกฎหมาย และตามระเบียบวิธีเก็บข้อมูล”
นอกจากนี้ ในรายงานของ UNHCR ยังพบว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธต่ออิสราเอลโดยกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ “ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลที่ไม่ได้ทันตั้งตัวเมื่อ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนและมีการจับตัวประกันไปกว่า 250 คน ตามข้อมูลจากทางการอิสราเอล และการโจมตีโต้กลับโดยอิสราเอลทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 37,400 คน อ้างอิงข้อมูลของเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่บริหารงานโดยกลุ่มฮามาส
- มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพีและรอยเตอร์