กองทัพอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่ฉนวนกาซ่าและภาคใต้ของเลบานอนในวันพฤหัสบดี ขณะที่ ยังไม่มีชัดเจนเกี่ยวกับความพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ดำเนินมากว่า 10 เดือนนี้
สำนักข่าว WAFA ของทางการปาเลสไตน์รายงานในวันพฤหัสบดีว่า การโจมตีโดยอิสราเอลในเขต เบต ลาฮิยา ทางเหนือของกาซ่า สังหารผู้คนไปอย่างน้อย 11 ราย
ฝ่ายกองทัพอิสราเอลรายงานว่า การโจมตีทางอากาศของตนพุ่งเป้าเข้าใส่คลังอาวุธแห่งหนึ่งใกล้ ๆ กับที่ตั้งของกองทัพฮามาสในกาซ่าซิตี้ และยังสังหารนักรบจำนวนหนึ่งของกลุ่มติดอาวุธนี้ในพื้นที่ภาคกลางของกาซ่าด้วย
กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยในวันพฤหัสบดีด้วยว่า ทำการโจมตีทางอากาศอีกระลอกหนึ่งในพื้นที่กว่า 10 จุดของภาคใต้เลบานอนในช่วงคืนวันพุธ โดยพุ่งเป้าไปยังจุดที่ตั้งของกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้พูดคุยกันเมื่อวันพุธเกี่ยวกับความพยายามของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนอิสราเอล “เพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากอิหร่าน ซึ่งรวมถึงกลุ่มก่อการร้ายตัวแทนอย่าง ฮามาส เฮซบอลลาห์และฮูตี ที่จะรวมอยู่ในแผนส่งความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ เพื่อการป้องกันตนเองที่กำลังดำเนินอยู่”
ปธน.ไบเดนยัง “เน้นย้ำความจำเป็นเร่งด่วนในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและการปล่อยตัวประกัน และปรึกษาประเด็นการหารือรอบถัดไปในกรุงไคโรเพื่อจัดการกับอุปสรรค(การเจรจา)ที่ยังคั่งค้างอยู่ด้วย” อ้างอิงแถลงการณ์ของทำเนียบขาว
ทั้งนี้ คาดว่า ทีมตัวกลางการเจรจาจากสหรัฐฯ อียิปต์ กาตาร์และตัวแทนจากอิสราเอลจะร่วมหารือเพิ่มเติมกันอีกในไม่กี่วันข้างหน้าที่กรุงไคโร เพื่อพยายามผลักดันกระบวนการเจรจาให้บรรลุเป้าหมายข้อตกลงหยุดยิงให้ได้
SEE ALSO: เฮซบอลลาห์ถล่มอิสราเอล - 'บลิงเคน' จบทริปไร้ข้อสรุปดีลหยุดยิงเมื่อวันพุธ สำนักงานนายกฯ เนทันยาฮู กล่าวว่า อิสราเอลมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายของสงครามนี้ ซึ่งรวมถึง การทำให้แน่ใจว่า กลุ่มฮามาสจะไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของอิสราเอลอีกต่อไป ขณะที่ กลุ่มฮามาสย้ำในวันเดียวกันเกี่ยวกับความต้องการหลักของตน ซึ่งรวมความถึง การที่อิสราเอลถอนทัพออกจากกาซ่าอย่างสมบูรณ์
ความกังวลด้านคำสั่งอพยพ
เมื่อวันพุธ องค์การสหประชาชาติเตือนว่า คำสั่งของอิสราเอลให้มีการอพยพในพื้นที่กาซ่ากำลังบีบให้พลเรือนชาวปาเลสไตน์เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่มีความแออัดสูงใกล้ ๆ ชายฝั่งกาซ่าแล้ว
ยูเอ็นระบุว่า คำสั่งอพยพประชาชนในเดียร์ อัล-บาลาห์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัยใกล้ ๆ กับโรงพยาบาลหลักของตอนกลางกาซ่า รวมทั้งผู้ที่อยู่ในเมืองคานยูนิส ทางใต้ของกาซ่า ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 150,000 คน
ชาวปาเลสไตน์ย้ายข้าวของขึ้นรถ เพื่ออพยพออกจากโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ถูกใช้เป็นค่ายผู้ลี้ภัย หลังอิสราเอลออกคำสั่งอพยพ เมื่อ 16 ส.ค. 2567
สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของยูเอ็น บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธว่า คำสั่งอพยพ 11 ครั้งของอิสราเอลที่ออกมาในเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียวส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 250,000 ในกาซ่า โดยยูเอ็นประเมินว่า 90% ของประชากร 2.1 ล้านคนในกาซ่าต้องกลายมาเป็นผู้พลัดถิ่นอย่างน้อย 1 ครั้งนับตั้งแต่สงครามครั้งนี้ปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว
สงครามอิสราเอล-ฮามาสเริ่มต้นขึ้นเมื่อกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลอย่างไม่ทันตั้งตัว และคร่าชีวิต 1,200 คน ทั้งยังจับกุมตัวประกันไปราว 250 คน ก่อนอิสราเอลดำเนินปฏิบัติการโจมตีโต้กลับซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่มากกว่า 40,000 คน อ้างอิงจากกระทรวงสาธารณสุขในกาซ่าที่บริหารงานโดยฮามาส โดยที่ตัวเลขนี้ไม่ได้จำแนกว่าเป็นนักรบฮามาสและประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนเท่าใด
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์