อิสราเอลอ้าง สังหารนักรบฮามาสเพิ่ม 6 คน ขณะประชาชนเดินหน้าประท้วงรัฐบาล

  • VOA

ชาวปาเลสไตน์ร่วมแบกศพของผู้ที่เสียชีวิตในการโจมตีของปาเลสไตน์ ไปทำพิธีศพในวันที่ 5 ก.ย.

อิสราเอลกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ได้สังหารนักรบปาเลสไตน์ 6 รายในการต่อสู้รอบใหม่ที่เขตเวสต์แบงก์ โดยหนึ่งในนั้นคือ บุตรชายของนักรบระดับแนวหน้าของฮามาสที่ถูกคุมขังอยู่

กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์เปิดเผยว่า การโจมตีในช่วงข้ามคืนก่อนหน้าโดยอิสราเอลเข้าใส่เมืองทูบาส ของเขตเวสต์แบงก์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนซึ่งรวมถึง โมฮัมเหม็ด ซูเบอิดิ บุตรชายของ ซาคาเรีย ซูเบอิดิ ผู้บัญชาการกลุ่มติดอาวุธนี้ที่เป็นที่รู้จักขึ้นมาในช่วงการลุกฮือครั้งที่ 2 ของชาวปาเลสไตน์เมื่อต้นคริสต์ทศวรรษที่ 2000 โดยซูเบอิดิ ผู้เป็นพ่อ ร่วมทำการแหกคุกในปี 2021 ก่อนจะถูกจับกุมและถูกส่งตัวเข้าเรือนจำอีกครั้ง

ภาพการระเบิดในปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในเมืองเจนิน ของเขตเวสต์แบงก์ เมื่อ 5 ก.ย. 2567

กองทัพอิสราเอลระบุว่า ซูเบอิดิ ผู้เป็นบุตรชาย เข้าร่วมการโจมตีใส่กองกำลังอิสราเอลในพื้นที่เขตเวสต์แบงก์ ก่อนจะถูกสังหาร

กองทัพยังเปิดเผยด้วยว่า ได้สังหารนักรบฮามาสอีกรายในการโจมตีทางอากาศเข้าใส่ค่ายผู้ลี้ภัย อัล-ฟารา หลังทำการโยนระเบิดมือเข้าใส่กองกำลังอิสราเอล

ขณะเดียวกัน ประชาชนนับร้อยเข้าร่วมการเดินขบวนอย่างสันติในคืนวันพฤหัสบดีที่กรุงเทลอาวีฟ โดยมีการแบกโลงศพปลอมจำนวน 27 โลกที่เป็นตัวแทนของตัวประกัน 27 คนซึ่งถูกฮามาสจับตัวไปขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว ก่อนที่กองทัพอิสราเอลจะนำศพตัวประกันเหล่านี้กลับมา

การชุมนุมประท้วงในอิสราเอลนั้นพุ่งเป้าไปยังนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู สำหรับความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซ่าและการนำตัวประกันกว่า 100 คนที่อยู่ในมือฮามาสกลับมา

ครอบครัวของตัวประกัน 6 คนที่กองทัพอิสราเอลพบศพเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาออกแถลงการณ์ที่มีเนื้อหากล่าวหาเนทันยาฮูว่า ทำการปิดกั้นการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่นำมาซึ่งการต้องเสียสละชีพของสมาชิกในครอบครัวของตนเพื่อแลกกับพื้นที่ผืนเล็ก ๆ ที่แนวชายแดนกาซ่า-อียิปต์

Your browser doesn’t support HTML5

อิสราเอลประท้วงวุ่น! เรียกร้องช่วยตัวประกัน-ดันข้อตกลงหยุดยิง

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ชาวอิสราเอลนับแสนคนออกมาเดินประท้วงตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับข้อตกลงหยุดยิงเสียที โดยประกาศว่า เหลือเวลาไม่มากแล้วที่จะช่วยให้ตัวประกันทั้งหมดได้กลับบ้าน

  • ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี รอยเตอร์ และเอเอฟพี